SCGP เตรียม 8 พันล.ตั้งรง.รอบอาเซียน

บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง เข้าซื้อขายหุ้น IPO เรียบร้อย ผลตอบรับดีเยี่ยม ระดมทุนเพื่อขยายการต่อยอดกิจการในอาเซียนที่วางงบประมาณไว้กว่า  8.2 พันล้านบาท รวมถึงควบรวมธุรกิจกับโรงงานกล่องลูกฟูกรายใหญ่ในเวียดนาม สำหรับผลดำเนินงาน 9 เดือนแรกปีนี้ ยอดขายได้ทั้งสิ้น 69,190 ล้านบาท หลักๆ มาจากกลุ่มสินค้าบริโภค ส่งอาหาร



นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP กล่าวว่า หลังจาก SCGP ได้ระดมทุนโดยการเสนอขายหุ้น IPO แล้วจากนั้น จะวางแผนขยายการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการขยายการลงทุนและการควบรวมกิจการ ปัจจุบันโครงการขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว (Flexible Packaging) ในประเทศเวียดนาม ได้เริ่มเปิดดำเนินการแล้ว และมีอีก 3 โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างด้วยงบลงทุนรวมกว่า 7,700 ล้านบาท จะทยอยแล้วเสร็จในปี 2564 ได้แก่ โครงการขยายกำลังการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ (Packaging Paper) ในประเทศอินโดนีเซีย โครงการขยายกำลังการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ (Packaging Paper) ในประเทศฟิลิปปินส์ และโครงการขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว (Flexible Packaging) ในประเทศไทยซึ่งโครงการทั้งหมดนี้จะใช้งบลงทุนกว่า 8,200 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จในปี 2563-2564 



สำหรับความคืบหน้าของการควบรวมกิจการ (M&P) กับ Bien Hoa Packaging Joint Stock Company หรือ (SOVI) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูก (Corrugated Containers) รายใหญ่ในประเทศเวียดนามที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โฮจิมินห์ ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบสินค้าคงคลังรอบสุดท้าย คาดว่าการทำธุรกรรมจะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมปีนี้ ซึ่งการเข้าลงทุนนี้จะส่งผลให้ SCGP มีกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์ปลายน้ำจากเยื่อและกระดาษในเวียดนามเพิ่มขึ้น รวมถึงเป็นการเพิ่มศักยภาพขยายตลาดบรรจุภัณฑ์ เนื่องจาก SOVI มีฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่เป็นบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่และบริษัทชั้นนำในประเทศ  



ทั้งนี้ บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) เข้าทำการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัท หลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม ระบุว่า การเสนอขายหุ้น IPO ของ SCGP ครั้งนี้ มีจำนวนไม่เกิน 1,127.6 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 26.5 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ ได้รับการตอบรับที่ดีมากและเป็นนักลงทุนสถาบันที่มีคุณภาพ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในโมเดลธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรของ SCGP ที่เป็นผู้นำบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียน และมีแผนงานขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผลการดำเนินงานใน 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) เติบโตอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน โดยมีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 69,190 ล้านบาท เมื่อ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเติบโตร้อยละ 5 กำไรสุทธิ 4,971 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 22 เพิ่มขึ้นเช่นกัน จากความสามารถในการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และมีปัจจัยหนุนจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของความต้องการใช้สินค้าจำเป็นที่ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยกลุ่มสินค้าที่เติบโตได้ดีใน 9 เดือนผ่านมาคือ บรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค อีคอมเมิร์ซ และฟู้ดเดลิเวอรี่ 


  

ขณะที่กลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์เริ่มมีการฟื้นตัวในไตรมาสสามปีนี้ หลังจากได้รับผลกระทบจากการที่ผู้บริโภคชะลอการซื้อสินค้าคงทนที่มีมูลค่าสูงในช่วงก่อนหน้านี้ รวมถึงความต้องการบรรจุภัณฑ์ในประเทศเวียดนามที่เติบโตขึ้นภายหลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และจากการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะจากการควบรวมกิจการกระดาษบรรจุภัณฑ์ในประเทศอินโดนีเซียและบรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถนะสูง และพอลิเมอร์ในประเทศไทยที่ทำให้ SCGP มีรายได้และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง



ต.ค. 63



 
เว็บสำเร็จรูป
×