CPF เลือกสตาร์ทอัพร่วมทีมลดคาร์บอนต่ำ



         ซีพีเอฟ เฟ้นหาบริษัทสตาร์ทอัพหน้าใหม่ ที่มีแนวคิดและทางเลือกที่ดี ในการจัดการฟาร์มอัจฉริยะ การบริหารเรื่องน้ำ พลังงาน ภายใต้โครงการ “ดีพร้อม สตาร์ทอัพ คอนเน็ค” ในแนวทาง BCG และจะสอดรับกับเป้าหมายสู่ความยั่งยืน CPF 2030 ที่จะลดก๊าซเรือนกระจกลง 25% ในปี 2568 

         นายพีรพงศ์ กรินชัย รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ด้านวิศวกรรมกลาง บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) (CPF) กล่าวว่า บริษัทฯ ได้คัดเลือก และทำงานร่วมกับบริษัท สตาร์ทอัพ เพื่อค้นหาโซลูชั่นร่วมกันในการตอบโจทย์ทางด้านการจัดการฟาร์มอัจฉริยะ (Smart Farm) การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในโรงงานและอาคาร (Energy Efficiency) การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและการบำบัดน้ำเสีย การผลิตพลังงานทดแทน พลังงานทางเลือก และเทคโนโลยีของระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System: ESS) เป็นต้น โดยมีทีมวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมและพลังงานทางเลือก (Environmental, Renewable and Alternative Energy Engineering) ของซีพีเอฟ กำหนดโจทย์ให้กับผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ ในด้าน BCG (Bio-Circular-Green economy) และทีม Digital Transformation and Innovation ร่วมพิจารณาคัดเลือกสตาร์ทอัพที่นำเสนอโมเดลธุรกิจ 



         โครงการดีพร้อม สตาร์ทอัพ คอนเน็ค เป็นการสร้างโอกาสเติบโตให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ได้นำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนของธุรกิจ ตามแนวทาง BCG ขณะเดียวกัน ก็เป็นโอกาสขององค์กรธุรกิจที่จะร่วมเป็นพันธมิตรกับสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพในการใช้เทคโนโลยีและมีความคิดสร้างสรรค์ ตามโจทย์ที่ซีพีเอฟกำหนดเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายองค์กรคาร์บอนต่ำ และมีส่วนร่วมลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก 

         ทั้งนี้ ซีพีเอฟ ได้กำหนดกลยุทธ์และเป้าหมายสู่ความยั่งยืน CPF 2030 Sustainability in Action ประกอบด้วย 9 ความมุ่งมั่น ซึ่งหนึ่งภารกิจสำคัญ คือ การบริหารจัดการทรัพยากรที่เป็นเลิศ จำกัดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดำเนินการจัดการพลังงาน ทรัพยากรน้ำและของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ และใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยบริษัทฯ กำหนดเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรงและทางอ้อมต่อหน่วยการผลิตลง 25% ในปี 2568 เมื่อเทียบกับปีฐาน 2558 ลดปริมาณการดึงน้ำมาใช้ต่อหน่วยการผลิตลง 30% ต่อหน่วยการผลิต เป็นต้น 

         สำหรับ โครงการดีพร้อมสตาร์ทอัพ คอนเน็ค (DIPROM Startup Connect) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้จัดต่อเนื่องจนถึงปีนี้ เป็นปีที่ 3 มีผู้ประกอบการสตาร์ทอัพได้รับการคัดเลือก จำนวน 17 บริษัท นำเสนอโมเดลสำหรับองค์กรธุุรกิจ โดยนอกจากซีพีเอฟแล้ว ยังมี บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยคม จํากัด (มหาชน) บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด และบริษัท เอสซีจี ซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด เข้าร่วมโครงการดังกล่าว 

         นอกจากนั้นแล้ว ในปีนี้บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด หรือ เครือซีพี ยังได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้เป็นบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลก ประจำปี 2565 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 อยู่ในหมวดกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งได้รับการประเมินจาก Ethisphere สถาบันชั้นนำระดับโลกด้านการวัดและประเมินมาตรฐานจริยธรรมในการดำเนิน ที่มีบริษัทชั้นนำจาก 22 ประเทศทั่วโลกผ่านการคัดเลือกรวมทั้งสิ้น 135 บริษัท 



         หลักเกณฑ์การพิจารณาองค์กรที่ได้รับการคัดเลือกใน The 2022 World’s Most Ethical Companies สถาบัน Ethisphere จะพิจารณาการดำเนินงานที่เหมาะสมใน 5 ด้านสำคัญคือ 1.ด้านกระบวนการดำเนินงานด้านจริยธรรมและการกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ 2.ด้านการกำกับดูแลกิจการ 3.ด้านการสร้างวัฒนธรรมด้านจริยธรรม 4.ด้านการปกป้องผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสังคม และ 5.ด้านภาวะผู้นำและการรักษาชื่อเสียงขององค์กร 





 
เว็บสำเร็จรูป
×