เลขานุการ กระทรวง อว. เปิดงาน “U2T for BCG บทเรียนจากอดีตสู่ความต่อเนื่องยั่งยืน” ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคตะวันออก โดยมีมหาวิทยาลัยทำหน้าที่เป็น
หน่วยบูรณาการโครงการ (System Integrator) แต่ยังพบปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขจากแต่ละท้องถิ่นซึ่งไม่เหมือนกัน
โดยการจัดเสวนานี้จะทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม และในปีนี้จะยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มความสามารถในภาคการผลิต
เพื่อสร้างผู้ประกอบการมืออาชีพในแต่ละตำบลเกิดขึ้น
ดร.ดนุช ตันเทอดทิตย์
เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
และคณะลงพื้นที่ภาคตะวันออก ชลบุรี-ระยอง-จันทบุรี และเปิดงาน “U2T for BCG บทเรียนจากอดีตสู่ความต่อเนื่องยั่งยืน”
กิจกรรมภาคต่อโครงการส่งเสริมการตลาดเพื่อประชาสัมพันธ์และแนะนําผลิตภัณฑ์สินค้า U2T for BCG ที่จัดขึ้น ณ มหาวิทยาลัยบูรพา
จังหวัดชลบุรี ต่อด้วย หมู่บ้านเอื้ออาทรระยอง (วังหว้า) ตำบลกระแสบน อำเภอแกลง
จังหวัดระยอง และปิดท้ายที่ มหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี จังหวัดจันทบุรี
ซึ่งเป็นหนึ่งพื้นที่เป้าหมายภาคตะวันออกที่ อว.ลงพื้นที่จัดแสดงสินค้าออกสู่ตลาดผู้บริโภค
ขยายโอกาสเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและพัฒนาช่องทางการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ให้แก่ผู้ประกอบการในภาคธุรกิจและภาคบริการต่างๆ
นับตั้งแต่เริ่มโครงการ จนกระทั่งปัจจุบัน
ถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรู้ข้อดี ข้อเสีย
เพื่อนำมาปรับปรุงโครงการและชุมชมให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในอนาคต
ดร.ดนุช ตันเทอดทิตย์
เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาฯ กล่าวว่า
ภายหลังจากที่เริ่มโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตําบลแบบบูรณาการ
มหาวิทยาลัยสู่ตําบลสร้างรากแก้วให้ประเทศ หรือ โครงการ U2T ถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์ ยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตําบลแบบบูรณาการ
โดยมหาวิทยาลัยในพื้นที่เป็นหน่วยบูรณาการโครงการ (System Integrator) การจ้างงานการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่มีความครอบคลุมในประเด็นต่างๆ
ตามปัญหาและความต้องการของชุมชน การจัดทําข้อมูลขนาดใหญ่ของชุมชน (Community
Big Data) โดยมหาวิทยาลัยเป็น System Integrator มีการจ้างงานประชาชนทั่วไป บัณฑิตใหม่ และนักศึกษา
มีงานทําและฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชน
ตลอดจนให้เกิดการพัฒนาตามปัญหาและความต้องการของชุมชน
การถอดบทเรียนครั้งนี้ทำให้ได้เห็นทั้งมุมมองที่ประสบความสำเร็จ
และด้านที่ยังต้องพัฒนาอีกมาก ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นถิ่นก็ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นการได้จัดเสวนา
นำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม สําหรับปีงบประมาณ 2566
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรม (อว.)
ยังคงมุ่งเน้นเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิต
และบริการด้าน BCG
เพื่อให้สมบูรณ์ครบทุกพื้นที่ต่อไป
“หวังว่าการร่วมกันถอดบทเรียนภาพรวมผลการดําเนินงานในพื้นที่ต่างๆ
ทั่วประเทศครั้งนี้ จะเป็นการนําปัญหาและอุปสรรคที่พบระหว่างการดําเนินงานมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
หารือร่วมกัน
เพื่อเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนกลไกการดําเนินงานและพัฒนาโครงการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
รวมถึงเป็นการบูรณาการการทํางานร่วมกันของเครือข่าย อว. เพื่อยกระดับ เศรษฐกิจ
สังคม พร้อมขจัดปัญหาความยากจนในทุกพื้นที่ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม
สร้างชีวิตใหม่ สร้างผู้ประกอบการมืออาชีพในแต่ละตําบล
และทําให้เกิดการสานต่อผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และเป็นรูปธรรมทั้งในประเทศและการส่งออก
และแน่นอนว่าโครงการนี้จะยังอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนตลอดไป” ดร.ดนุช
กล่าวปิดท้าย
สำหรับงานเสวนาหัวข้อ “U2T for BCG บทเรียนจากอดีต
สู่ความต่อเนื่องยั่งยืน” มีตัวแทนผู้ประกอบการ เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
และมีตัวแทนจากมหาวิทยาลัยที่ดูแลรับผิดชอบโครงการฯ รวมถึงหน่วยงานที่ อว.
ได้ผสานความร่วมมือ อาทิ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ,คลินิกเทคโนโลยี
ผู้ผลิตสินค้าระดับโอทอป (OTOP) และ หน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจในสถาบันอุดมศึกษา (University Business Incubator : UBI) ได้มาร่วมกันพูดถึงปัญหาที่พบบ่อยรวมถึงวิธีการแก้ไขเพื่อให้ผู้ประกอบการได้นำไปต่อยอดอย่างเป็นรูปธรรม
และในงาน U2T
for BCG มีสินค้ามาจัดแสดงมากมาย อาทิ สมุนไพร ผ้ามัดย้อม
เครื่องจักสาน ตัวอย่างที่สินค้าที่ได้รับการพัฒนาแล้ว
เพื่อเป็นการส่งเสริมและเพิ่มมูลค่าทางวัตถุดิบให้เกิดประโยชน์สูงสุด
|