“คอรัล รีฟ” กระแสตอบรับดีขายแล้ว 700 ห้อง

โคปาคาบาน่า กับโปรเจคใหม่ “โคปาคาบาน่า คอรัล รีฟ จอมเทียน พัทยา” มูลค่าโครงการ 11,000 ล้านบาท ทั้งหมด 1,897 ยูนิต ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 32 ตร.ม. ให้ลูกค้าเข้าอยู่แบบFully Furnished ซึ่งกระแสตอบรับจากลูกค้าต่างชาติค่อนข้างดี นำเสนอการบริการแบบโรงแรมระดับ 5 ดาว พร้อมแนะนำควรให้ชาวต่างชาติถือกรรมสิทธิ์ห้องชุดเป็น 75% เพราะมาตรการ LTV หรือการลดค่าธรรมเนียมการโอน - จดจำนองเหลือ 0.01% ช่วยกระตุ้นได้ไม่มาก

นางสาวกสิณา ธรรมสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โคปาคาบาน่า กรุ๊ป กล่าวว่า โคปาฯ ได้เปิดตัวโครงการแรกเมื่อปี 2562 ภายใต้ชื่อโครงการโคปาคาบาน่า บีช จอมเทียน (Copacabana Beach Jomtien) คอนโดมิเนียมหรูสูง 59 ชั้น 1 อาคาร มูลค่าโครงการรวมกว่า 8,000 ล้านบาท กวาดยอดขายไปกว่า 90% เป็นที่ยอมรับของลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ จากราคาเฉลี่ยที่ 110,000 บาท/ตร.ม. ขายต่อได้ถึงตารางเมตรละ 200,000 บาท

ดังนั้นเพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จ จึงได้เปิดโครงการใหม่ “โคปาคาบาน่า คอรัล รีฟ จอมเทียน พัทยา” เมื่อเดือนตุลาคม 2567 เป็นคอนโดฯ High Rise Residential 55 ชั้น สไตล์โมเดิร์นตอบโจทย์ทุก Generation ในราคาเริ่มต้น 3.6 ล้านบาท (เฉลี่ยตารางเมตรที่ 90,000 บาท) มีห้องชุดพักอาศัยจำนวน 1,897 ยูนิต จอดรถ 5 ชั้น และอาคารจอดรถเสริม 2 ชั้น มูลค่าโครงการกว่า 11,000 ล้านบาท  

“โคปาคาบาน่า คอรัล รีฟ จอมเทียน พัทยา” พัฒนาขึ้นในคอนเซ็ปต์ “อัญมณีแห่งท้องทะเล (The Jewels of The Sea)” โดยเปิดขายเพียง 8 เดือน มียอดขายกว่า 700 ยูนิต ซึ่งลูกค้าต่างชาติเริ่มกลับมามากขึ้นเห็นได้จากยอดขาย 2 ใน 3 ของยูนิตที่ขายได้เป็นชาวไทย 15% ชาวต่างชาติ 25% เป็นลูกค้าจากยุโรป รัสเซีย อเมริกา และแคนาดา เป็นต้น ส่วนที่เหลือเจาะตลาดลูกค้าคนไทย คาดว่าจะขายได้หมดก่อนที่จะก่อสร้างเสร็จ

ในตัวโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ระดับพรีเมียมที่ออกแบบมาครบครัน พร้อมบริการระดับโรงแรม 5 ดาว ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำ 4 สระ , Onsen zone, ซาวน่า และ Fitness พื้นที่สีเขียวภายในโครงการ โถงต้อนรับหรูหราขนาดใหญ่แบบ High Ceiling พร้อมลิฟต์ทั้งหมด 14 ตัว ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. พร้อมบริการรถรับส่งไปยัง Shopping Center เช่น Century 21, Central Pattaya Beach

ในส่วนของการออกแบบ โคปาคาบาน่า คอรัล รีฟ จอมเทียน เน้นความทันสมัย โปร่งโล่ง และกลมกลืนกับธรรมชาติ โดดเด่นทั้งภายนอก และภายในอาคาร ออกแบบอย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด คำนึงถึงการใช้งาน เเละการให้บริการลูกค้าและรองรับการอยู่อาศัยมีห้องให้เลือก 5 ประเภท มีแบบกว่า 39 แบบ ขนาดห้องเริ่มต้น 32 ตร.ม. ตกแต่งอย่างสวยงามให้คุณเข้าอยู่แบบ Fully Furnished

“โครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นที่คอนโดฯ หรูระดับเวิลด์คลาส แต่ยังเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ ตั้งอยู่ที่พัทยาเมืองท่องเที่ยวชื่อดังที่ไม่มีช่วงโลว์ซีซั่น ทำเลที่ตั้งเป็นที่ต้องการทั้งนักท่องเที่ยว และนักลงทุน โครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาอย่างต่อเนื่องรับการลงทุนในพื้นที่ EEC ทำให้ โคปาคาบาน่า คอรัล รีฟ จอมเทียน เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มองหาการลงทุนอสังหาฯ ในพัทยา” นางสาวกสิณา กล่าว

สำหรับโคปาคาบาน่า คอรัล รีฟ จอมเทียน พัทยา ตั้งอยู่บนถนนจอมเทียน สาย 2 ใกล้ตลาดร่มโพธิ์ ใกล้ชายหาดจอมเทียนเพียง พร้อมสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ มากมายอาทิ ท่าเรือแหลมบาลีฮาย  สวนนงนุช สนามบินอู่ตะเภา และรายล้อมด้วย ห้างสรรพสินค้า ตลาดไนท์มาร์เก็ต ร้านอาหาร คาเฟ่ โรงพยาบาล ฯลฯ 

นางสาวกสิณา กล่าวอีกว่า ปัจจุบันงานก่อสร้างโครงการโคปาคาบาน่า คอรัล รีฟ จอมเทียน พัทยา มีความคืบหน้าต่อเนื่อง งานฐานรากเสร็จสมบูรณ์ อยู่ระหว่างก่อสร้างโครงสร้างหลัก ซึ่งเป็นไปตามแผนที่กำหนดล่าสุดสร้างถึงชั้นที่ 15 มั่นใจโครงสร้างหลักสร้างเสร็จตามกำหนดในปี 2569 และคาดเสร็จสมบูรณ์ 100% พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้าเข้าอยู่อาศัยในปี 2570  

“เราไม่เพียงมุ่งเน้นการสร้างอาคารที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงการจัดสวนเพื่อประหยัดพลังงานลดความร้อน ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะ อย่าง Face Scan ในด้านการรักษาความปลอดภัย โครงสร้างอาคารได้รับการออกแบบตามข้อกำหนดของพระราชบัญญัติของกระทรวงในประเทศไทย และมาตรฐานการออกแบบโครงสร้างต้านแผ่นดินไหว DPT 1301-1302 ของกรมโยธาธิการและผังเมือง ใช้องค์ประกอบคอนกรีตเสริมเหล็กที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบต้านแผ่นดินไหว ซึ่งได้รับการออกแบบรายละเอียดเพื่อให้มีความเหนียวที่สูงกว่าข้อกำหนดขั้นต่ำตามมาตรฐานดังกล่าว มั่นใจว่า โคปาคาบาน่า คอรัล รีฟ จอมเทียน จะเป็นโครงการที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและมีความยั่งยืน นอกจากนี้ยังวางแผนเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่องบนที่ดินในพัทยาอีกหลายแปลงที่ซื้อสะสมไว้เมื่อ 12 ปีก่อน”

พร้อมกันนี้ ยังกล่าวให้ความเห็นตอนท้ายว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล ทั้งมาตรการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทยควบคู่กับมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอน และการจดจำนองเหลือ 0.01% ส่วนตัวมองว่าตลาดอาจฟื้นได้แต่ไม่มาก หากต้องการให้ตรงจุดมากพอ น่าจะเพิ่มมาตรการอื่นๆ เข้ามาเสริม โดยเฉพาะการปรับแก้หลักเกณฑ์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการให้สิทธิ์คนต่างชาติสามารถถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุดเป็น 75% การเพิ่มโควต้าดังกล่าวนอกจากจะเปิดโอกาสให้ต่างชาติซื้อคอนโดฯ ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ยังสามารถดึงเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกด้วย

 
ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2568