“บูรพา” จ้าวแห่งแป้งที่รังสรรค์เมนูอาหาร

บูรพา พรอสเพอร์ ชูแบรนด์ “Burapa Prosper” ทำตลาด B2B โดยเตรียมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “หมีกินเล่น” เจาะกลุ่มครัวเรือนและ HORECA และผลิตภัณฑ์จากน้ำซาวข้าว ซึ่งสินค้าที่น่าสนใจจะนำมาแสดงในงาน THAIFEX – Anuga Asia ปีนี้ สำหรับผลประกอบการ 3 ปีที่ผ่านมา เติบโตปีละ 10% มีสัดส่วนการขายทั้งในและต่างประเทศเท่ากันที่ 50% ขณะที่เป้ารายได้ปีนี้ตั้งไว้ที่ 900 ล้านบาท


นางสาวสถาพร ไพศาลบูรพา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูรพา พรอสเพอร์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก 2 กลุ่ม ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทพัฒนาเอง เช่น แป้งข้าวคุณภาพสูง แป้งชุบทอด เกล็ดขนมปังสูตรพิเศษ แป้งผสมสตรีทฟู้ด แป้งโมจิ และเม็ดสาคูเกรดส่งออก และผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาตามสูตรเฉพาะของลูกค้า เช่น แป้งฟิชแอนด์ชิป แป้งลอดช่อง แป้งทองม้วน และแป้งเบเกอรี่กลูเตนฟรี ซึ่งสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งตลาด B2B และ B2C อย่างครอบคลุม

สำหรับแบรนด์ “Burapa Prosper” ถูกวางตำแหน่งเป็นทั้ง Corporate และ Product Brand ที่เน้นคุณภาพและนวัตกรรม เจาะตลาด B2B เป็นหลัก ขณะที่แบรนด์ “หมีคู่ดาว” พัฒนาเพื่อกลุ่ม B2C ที่เน้นความคุ้มค่าและรสสัมผัสที่ถูกใจผู้บริโภค โดยทั้งสองแบรนด์ทำงานประสานกัน ตั้งแต่ระดับครัวเรือนไปจนถึงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่

 

นอกจากนี้ Burapa Prosper ยังจับเทรนด์ Urbanization (การขยายตัวของเมือง) ที่ส่งผลให้ตลาดอาหารพร้อมปรุงเติบโตต่อเนื่อง โดยเตรียมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “หมีกินเล่น” ที่มีคอนเซ็ปต์ “ทำกินเองง่าย ทำขายกำไรดี” เพื่อเจาะตลาดผู้บริโภคครัวเรือนและกลุ่ม Horeca (กลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่ จัดเลี้ยง)อีกทั้งยังลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์จากน้ำซาวข้าว เพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสร้างมูลค่าเพิ่มจากวิตามินบีธรรมชาติ ภายใต้ธีม “Next-Level Texture” ซึ่งถูกนำเสนอในงาน THAIFEX – Anuga Asia ปีนี้

“เราได้โชว์นวัตกรรมอย่าง Mochi Pillow Nugget หรือไก่ทอดทรงหมอนที่ด้านนอกกรอบพองเบา ภายในมีไส้โมจิรสชีสยืดหนึบ เป็นการรวมสัมผัสกรอบและหนึบไว้ในคำเดียว สะท้อนการยกระดับประสบการณ์การบริโภคได้อย่างลงตัว ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์เด่นอื่นๆ ได้แก่ “Mochi Solution” ที่ออกแบบสำหรับผู้ผลิตที่ต้องการสร้างความพรีเมียม เช่น โมจิไอศกรีมหรือทาร์ตมัทฉะใส่โมจิ “Fried Food Coating” ที่ให้ความกรอบยาวนาน เหมาะกับผู้ประกอบการ QSR (ร้านอาหารบริการด่วน) และฟู้ด เดลิเวอรี่ รวมถึงแป้งสูตรไมโครเวฟที่ยังคงความกรอบแม้ผ่านการอุ่น” นางสาวสถาพร กล่าว

ปัจจุบันสินค้าของ Burapa Prosper จำหน่ายครอบคลุมทั้งห้างค้าส่ง โมเดิร์นเทรด Horeca และออนไลน์ โดยช่องทาง Horeca เติบโตเร็วที่สุดจากการมีทีมขายเฉพาะ โดยในปีนี้บริษัทฯ จะเร่งเพิ่มยอดขายผ่านอีคอมเมิร์ซ ควบคู่กับการใช้กลยุทธ์การตลาดผ่านดิจิทัลคอนเทนต์และอินฟลูเอนเซอร์ โดยเฉพาะวิดีโอรีวิวการใช้งานจริงซึ่งให้ผลลัพธ์ดีที่สุด

สำหรับผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ เติบโตเฉลี่ยปีละ 10% โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักที่สร้างรายได้ยังคงเป็น แป้งข้าวคุณภาพสูงและเม็ดสาคูเกรดส่งออก ขณะที่ผลิตภัณฑ์ดาวรุ่งอย่างแป้งชุบทอดหมีคู่ดาว ซึ่งลดการอมน้ำมันได้ถึง 40% ก็ได้รับการตอบรับอย่างยอดเยี่ยม ส่วนรายได้ของบริษัทฯ มาจากตลาดในประเทศและต่างประเทศในสัดส่วน 50:50 ซึ่งตั้งใจจะรักษาสมดุลทั้งสองตลาดนี้ไว้ พร้อมผลักดันรายได้รวม 900 ล้านบาทภายในปีนี้ โดยส่วนสำคัญหนึ่งจะมาจากยอดขายผลิตภัณฑ์กลุ่มแป้งผสมและอาหารแช่แข็งที่เป็นไฮไลต์ของปีนี้อยู่ที่ 100 ล้านบาท

 

นางสาวสถาพร กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัท บูรพา พรอสเพอร์ จำกัด ปัจจุบันส่งออกไปกว่า 40 ประเทศทั่วโลก พร้อมวางแผนรุกตลาดใหม่ ได้แก่ อินเดียและตะวันออกกลาง โดยมีแผนขยายกำลังการผลิตแป้งผสม จับมือกับพันธมิตรผู้ผลิตอาหารแช่แข็งที่ได้มาตรฐาน และติดตามกฎระเบียบการส่งออกอย่างใกล้ชิด เพื่อลดความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน พร้อมพิสูจน์ว่า “แป้ง” ไม่ใช่แค่ส่วนประกอบอาหารธรรมดา แต่คือศิลปะแห่ง “เนื้อสัมผัส” ที่สามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภค และยกระดับแบรนด์อาหารไทยสู่เวทีโลกอย่างมั่นคง

สำหรับในปี 2025 บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวมาสคอต “จันจัน” และ “นั่วนั่ว” จากแบรนด์หมีคู่ดาว เพื่อสร้างภาพลักษณ์ Modern Thai Identity ให้แบรนด์เข้าถึงผู้บริโภครุ่นใหม่ พร้อมขับเคลื่อนแบรนด์ Burapa Prosper ในฐานะผู้นำด้าน “Next-Level Texture” ที่ส่งมอบโซลูชันเนื้อสัมผัสใหม่ๆ แก่อุตสาหกรรมอาหารทั่วโลก

ทั้งนี้ จุดแข็งของ บริษัท บูรพา พรอสเพอร์ จำกัด คือ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านข้าวและแป้งมายาวนานกว่า 49 ปี ผนวกกับระบบการผลิตและควบคุมคุณภาพระดับสากล และทีมวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่สามารถคิดค้นผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปิดกว้างต่อเทรนด์อาหารจากทั่วโลก เช่น แป้งชุบทอดที่มีทั้งสูตรกรอบเบา กรอบฟู กรอบนาน หรือแป้งโมจิที่มีหลากหลายสัมผัส ทั้งนุ่มหนึบ นุ่มนิ่ม ไปจนถึงนุ่มยืด สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเบเกอรี่ ไอศกรีม หรือของว่างได้อย่างลงตัว


วันที่ 20 พฤษภาคม 2568

 
เว็บสำเร็จรูป
×