|
อายลิ้งค์
วิชั่น นำเสนอแบรนด์ ic!berlin แว่นตาแนวฟังก์ชั่นนอล
ตอบรับกระแสตลาดที่มีแนวโน้มจะเติบโตถึง 8 พันล้านบาท ในปี 2566 นอกจากนี้จะเปิดตัวอีกหลายแบรนด์
อาทิ Dior Givenchy Porsche Design โดยจะทุ่มงบประมาณ
50 ล้านในการทำตลาดผ่านหลายช่องทาง และที่สำคัญได้จับมือกับพาร์ทเนอร์อย่าง KT
OPTIC เพื่อให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายวางไว้
นายประพันธ์ ผดุงเกียรติสกุล กรรมการผู้จัดการ
บริษัท อายลิ้งค์ วิชั่น จากัด กล่าวว่า ปีที่แล้วบริษัท อายลิ้งค์ วิชั่น จำกัด
มีผลประกอบการ 350 ล้านบาท เติบโตจากปี 2564 ราว 40% มีส่วนแบ่งการตลาด 20%
จากสินค้ากลุ่มแว่นตาพรีเมี่ยมที่มีมูลค่าขายส่งอยู่ประมาณ 650 ล้านบาท
ถือว่าบรรลุเป้าหมายที่ยังคงรักษาระดับและมาตรฐานเอาไว้ได้อย่างดี
สำหรับภาพรวมตลาดขายปลีกแว่นตาทั้งประเทศจากข้อมูล
ปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 7,000 ล้านบาท ฉะนั้นคาดการณ์ว่าปี 2566
ภาพรวมตลาดขายปลีกจะเพิ่มขึ้นอีก 14% หรือราว 8,000 ล้านบาท บริษัท อายลิ้งค์ วิชั่น ยังมุ่งเน้นแว่นตาแนวฟังก์ชั่นนอล (แว่นตาที่เน้นการใช้งาน
สวมใส่ได้ตลอด ใช้งานได้นาน) เป็นอันดับ 1 เพราะมีความเชี่ยวชาญในการจัดจำหน่ายในประเทศไทยมานานกว่า
20 ปี และได้รับลิขสิทธิ์ในการจำหน่ายแว่นตาฟังก์ชั่นนอลมากเป็นอันดับ
1 ของประเทศด้วย
ดังนั้นจากประสบการณ์ที่ยาวนานของบริษัท และจำนวนแบรนด์ที่บริษัทได้นำเข้าและจัดจำหน่าย
ทำให้สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดแว่นตาฟังก์ชั่นนอลในประเทศไทยเกิน 80% ของตลาดรวม
ซึ่งปีนี้นอกจากแบรนด์ ic!berlin แล้ว ยังมีแบรนด์ Dior (ดิออร์), Givenchy (จีวองชี่), Silhouette (ซิลลูเอท) และ Kenzo
(เคนโซ่) ล่าสุดเตรียมเปิดตัวในฐานะผู้นำเข้าแว่นตาแฟชั่นสตรีทไฮเอนระดับโลกอีก
3 แบรนด์คือ Off White (ออฟไวท์) Palm
Angels (ปาล์ม แองเจิล) และ Porsche Design (พอร์ช
ดีไซน์)
สำหรับงบประมาณการลงทุนทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น
โซเชียลมีเดีย สื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ การเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์
รวมถึงทีมการตลาดเข้ามาทางานร่วมกับดีลเลอร์ งบประมาณการลงทุนในปีนี้สูงกว่าปีที่แล้ว
50% หรือราว 50 ล้านบาท เน้นทำตลาดเชิงรุก แม้คู่แข่งจะมีไม่มากแต่ประมาทไม่ได้
ที่สำคัญต้องการขยายฐานลูกค้าจากที่มีอยู่แล้วให้ครอบคลุม 360 องศา เพิ่มความหลากหลายให้กับกลุ่มผู้บริโภค เพศ และ
อายุที่เป็นวัยรุ่นมากขึ้น นั่นคือเหตุผลที่ดึง แอลลี่-อชิรญา นิติพน
มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุด เชื่อมั่นว่าสามารถดึงกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่น
วัยทีนที่ชื่นชอบแบรนด์แฟชั่นระดับพรีเมี่ยม หันมาให้ความสนใจแบรนด์ ic!berlin
มากขึ้น โดยคอลเลกชั่นใหม่นี้ทาง นายยัง โคเนอร์ (Mr.Jan
Kohne) ประธานบริหาร บริษัท ไอซี!เบอร์ลิน จากัด
ได้ผลิตแว่นตาที่มีสีสันและสไตล์เหมาะกับวัยรุ่นผู้หญิงมากขึ้น
สำหรับตลาดกลุ่มผู้ชายนั้น บริษัทฯ ต่อสัญญาแบรนด์แอมบาสเดอร์ปีที่
2 กับ คุณหมาก-ปริญ
สุภารัตน์ เพราะต้องยอมรับว่าทรงอิทธิพลต่อผู้บริโภคมาก โดยแว่นตา ic!berlin
ทุกแบบที่คุณหมากใส่ จะถูกเรียกว่ารุ่น หมาก ปริญ นอกจากนี้มีการปรับกลยุทธ์
การโปรโมทที่เน้นโซเชียลมีเดีย เพิ่มสื่อโฆษณาในแหล่งวัยรุ่น
ร่วมมือกับดีลเลอร์และตัวแทนจำหน่ายปรับภาพลักษณ์ หรือจุดขายภายในร้าน
เปลี่ยนตู้โชว์ ic!berlin ให้มองเห็นสินค้าเด่นชัดขึ้น ซึ่งคาดหวังว่าปีนี้จะได้ยอดขายเพิ่มจากปีที่แล้วอย่างน้อย
5%
“หลายคนมักสงสัยว่าทำไมช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย
หรือผ่านวิกฤติโควิด-19 มานั้น บริษัท อายลิ้งค์ วิชั่น
กลับทำยอดขายเพิ่มขึ้นและมีกำไรจากการจำหน่ายแว่นตาที่ถูกมองว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย
วัดจากการทำยอดขาย ic!berlin สูงสุดในเอเชียตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
โดยเฉพาะปีที่แล้วบริษัทมียอดเติบโตเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดทั้ง แว่นกันแดด และ
กรอบแว่นสายตา สาเหตุเพราะผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อ
ก็ซื้อโดยไม่ได้สนใจสิ่งเร้ารอบข้าง ที่สำคัญคือชื่นชอบในแบรนด์ ic!berlin อยู่แล้ว” นายประพันธ์ กล่าว
 
ยิ่งตอนนี้ประเทศเปิดยิ่งเกิดการใช้จ่ายในการซื้อสินค้า
แม้อัตราการส่งออกไม่ดี น้ำมัน ไฟฟ้า ค่าครองชีพสูงขึ้น แต่อัตราการเติบโตของบริษัทฯ
สูงสวนทางกับสภาพเศรษฐกิจ โดยกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อและต้องการซื้อก็จะซื้อ
ต่อให้ไม่ได้ซื้อที่เมืองไทย ก็ต้องไปซื้อต่างประเทศ เพราะฉะนั้นจึงต้องนำเข้าแว่นตาที่ตอบโจทย์ทันสมัย
วางจำหน่ายที่ประเทศไทยเป็นที่แรก
เพื่อดึงผู้บริโภคให้ใช้จ่ายภายในประเทศรวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ต้องมาซื้อที่ประเทศไทย
ต้องไม่ลืมว่าประเทศไทยคือ ตลาดแว่นตาที่ใหญ่ที่สุดของแบรนด์ต่างๆ
หลายแบรนด์มียอดขายสูงสุดในอาเซียนก็อยู่ที่ประเทศไทย บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นและตอกย้ำความเป็นผู้นำเทรนด์แว่นตา
การคัดเลือกแบรนด์นำเข้าระดับพรีเมี่ยม ลิมิเต็ดอิดิชั่น
เพื่อเพิ่มช่องทางและความหลากหลายให้กับผู้บริโภค
รวมถึงการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายต่างๆ สำหรับดีลเลอร์ เน้นกลุ่มผู้มีรายได้สูง
กลุ่มคนทำงานที่มีกำลังซื้อและวัยรุ่นที่ชื่นชอบแฟชั่น
ปีนี้พันธมิตรทางธุรกิจที่ร่วมงานกันมาหลายปีและยังครองตำแหน่งดีลเลอร์อันดับ
1 ตลอดกาลของบริษัท
อายลิ้งค์ วิชั่น จากัด นั่นคือ บริษัท กรุงไทย ออพติค จำกัด (KT OPTIC) โดยบริษัทฯ ยังคงสนับสนุนการตลาดทุกรูปแบบอย่างสม่ำเสมอ อาทิ
การเปิดตัวแว่นตาคอลเลกชันใหม่ที่ศูนย์จำหน่ายแว่นตา KT OPTIC การทำโปรดักส์รีวิว โดยเซเลบริตี้ หรือ อินฟูลเอนเซอร์คนดังอย่างต่อเนื่อง
ปีนี้ KT มีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีก มีแคมเปญที่จะร่วมมือกันผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้น
เพื่อครองแชมป์ยอดจำหน่ายสูงที่สุดในโลกให้ได้ ถือเป็นความท้าทายที่ต้องไปให้ถึง
นายชัชวาลย์ วณิชไพสิฐ กรรมการบริหาร บริษัท กรุงไทย
ออพติค จากัด กล่าวว่า ปัจจุบัน KT OPTIC มีสาขาทั้งสิ้น 160 สาขา
ทั่วประเทศ และเตรียมเปิดสาขาเพิ่มอีก 6-8 สาขาทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด
เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดที่มีต่อเนื่อง โดยปี 2565
บริษัทฯ ทำยอดขายได้ 850 ล้านบาท ปี 2566 คาดหวังไว้ที่ 900 ล้านบาท หรือเติบโต 8% โดยมุ่งเป้าไปที่ตลาดผู้ซื้อแว่นตาพรีเมี่ยม และเหมาะกับชีวิตประจำวัน
ซึ่งกลยุทธ์ในการขายคือ มีสินค้าซึ่งเป็นที่รู้จักในระดับโลก
ทั้งแบรนด์แฟชั่นและฟังก์ชันนอลและมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง ปัจจุบัน KT
OPTIC และ อายลิ้งค์ฯ ถือเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่ทำกันมาต่อเนื่องและยาวนาน
ปีนี้จึงใช้โอกาสนี้ในการทำการตลาดร่วมกันอีกครั้ง
เชื่อมั่นว่าทั้งสองบริษัทจะมียอดเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน
“ฐานลูกค้าของ KT OPTIC ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงบนที่ค่อนข้างมีกำลังซื้อสูง
โดยมียอดการใช้จ่ายต่อคนต่อครั้งไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท
และจากการสำรวจพบว่าผู้บริโภคคนไทยจะมีแว่นตาไว้ในครอบครองต่อคนไม่ต่ำกว่า 15 อัน ทั้ง แว่นกันแดด และ แว่นสายตา
ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่ายอดขายของบริษัทเป็นไปตามเป้าหมายแน่นอน” นายชัชวาลย์ กล่าว
สำหรับแว่นตา ic!berlin คอลเลกชั่น 2023 มีชื่อว่า Silk pure Collection (ซิลค์ เพียว
คอลเลคชั่น) ดีไซน์ใหม่โฉบเฉี่ยวเพรียวบาง มินิมอลหรูหราฟังก์ชันนอลตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
ด้วยระบบบานพับที่บางเบาที่สุด แข็งแรงที่สุดเท่าที่ ic!berlin เคยผลิตมา
เพิ่มลูกเล่นด้วยกรอบและขาแว่นสีสันสดใสสไตล์วัยรุ่นหญิงและวัยรุ่นชาย
ตัวแว่นผลิตจากวัสดุสแตนเลสสตีลพรีเมี่ยมเกรดเครื่องมือแพทย์ ผสานนวัตกรรมบานพับไร้สกรูลิขสิทธิ์เฉพาะของ
ic!berlin โดยคอลเลกชั่นนี้มีทั้งหมด 5
รุ่น ได้แก่ รุ่น Teo, Mea, Lio, Sia และ Lev แต่ละรุ่นจะมีความโดดเด่น แตกต่าง และน่าดึงดูด บ่งบอกเอกลักษณ์เฉพาะตัว
นอกจากนี้ ic!berlin ยังได้ครอสโอเวอร์กับแบรนด์ยนตรกรรมของเยอรมนีอย่าง
Mercedes Benz ผลิตแว่นตารุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นสุดเอ็กคลูซีฟออกวางจำหน่ายแล้ว
แว่นตา ic!berlin ทุกคอลเลกชั่น มีวางจำหน่ายแล้วที่ศูนย์การค้าชั้นนำ
และ ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
|