วันที่ 6 พฤศจิกายน 2567

งานขายที่อยู่อาศัย ครั้งที่ 46 ปิดฉากลงด้วยยอดจองเกินเป้า 6 พันล้านบาท ตลอด 4วันที่จัดงาน โดยคอนโดฯ ยังนำที่ 1 ของการจอง ตามด้วยทาวน์เฮ้าส์ และบ้านเดี่ยว ซึ่งคนช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป เข้าชมงานกว่า 50% ขณะเดียวกันภาครัฐมองว่า อสังหาฯ เป็นธุรกิจที่สร้างจีดีพีให้กับเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก ล่าสุดเตรียมยื่นมติครม.ออกสินเชื่อ ซื้อ-แต่ง-ซ่อม-สร้าง อีก 55,000 ล้านบาท

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เป็นประธานในพิธีเปิด “งานมหกรรมบ้านและคอนโด” ว่า มีการจัดงานมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แม้จะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทายในหลายรูปแบบ แต่ก็สามารถจัดงานมาได้ถึงครั้งที่ 46 ซึ่งแสดงถึงความร่วมมือและความพยายามอย่างต่อเนื่องของเหล่าสมาชิกผู้ประกอบการที่จะสร้างการเติบโตให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจของประเทศ เป็นฟันเฟืองที่ไม่เคยหยุด ไม่ย่อท้อต่อการทำหน้าที่ของแต่ละสมาคม คือ การเพิ่มโอกาสให้กับคนไทยได้มีบ้านที่ดี 

สำหรับในปีนี้ แม้ปัญหาหลักที่คนไทยกำลังเผชิญคือ เรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่สูง แต่อย่างไรก็ดี จากภาพรวมที่ได้เห็นคือการผนึกกำลังจากภาคอสังหาฯ ทั้งเอกชน สถาบันการเงินชั้นนำที่คับคั่ง แห่กันออกมาปรับลดดอกเบี้ย ทำให้ในส่วนของภาครัฐเองที่เป็นฟันเฟืองสำคัญก็ตื่นตัวอยู่ไม่น้อย

“ภาครัฐตระหนักดีว่า ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ถือว่ามีความสำคัญต่อเศรษฐกิจบ้านเมืองอย่างมาก โดยในอุตสาหกรรมนี้ สามารถสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ได้สูงถึง 5% และในช่วงปี 2566 ที่ผ่านมา ก็ยังสามารถสร้างจีดีพีได้สูงสุด ทำให้มูลค่ารวมในอุตสาหกรรมนี้สูงราว 1.1 ล้านล้านบาท ถึงแม้สถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปัจจุบันนี้ไม่สดใส” นายพิชัย กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของทางกระทรวงการคลังที่ได้วางแนวทางในการสนับสนุนภาคอสังหาฯ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home ที่ได้ปล่อยสินเชื่อเต็มกรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท โครงการสินเชื่อ Happy Life ที่ปล่อยสินเชื่อไปแล้วจำนวน 18,000 ล้านบาท ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดี และล่าสุดก็ได้เตรียมยื่นมติคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาในการออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ ผ่านสินเชื่อ ซื้อ-แต่ง-ซ่อม-สร้าง บ้านและคอนโด ดอกเบี้ยต่ำ วงเงินรวม 55,000 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการมีบ้านของประชาชนที่มีรายได้น้อย ให้เข้าถึงสินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ยต่ำ มีโอกาสในการซ่อมแซม ต่อเติมบ้านให้มั่นคงได้ ซึ่งหากผ่านมติ ครม. ทั้งหมดนี้ก็จะเป็นอีกฟันเฟืองของทางภาครัฐในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ส่งต่อความสดใสถึงต้นปีหน้า

ด้านนายถิรชนม์ ธเนศเดชสุนทร ประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 46 เปิดเผยว่า งานในครั้งนี้ ถือเป็นงานแสดงสินค้าที่อยู่อาศัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศที่ภาคอสังหาฯ ภาคเอกชน สถาบันการเงิน ออกมาร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อีกทั้งการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ออกมาลดดอกเบี้ยล่าสุด ยิ่งจะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นผู้บริโภคทันที ซึ่งเป็นจังหวะที่ถูกเวลามาก เพราะจะส่งผลดีให้แก่ผู้ประกอบการที่มาร่วมงาน และยังเป็นการเอื้อให้คนไทยสามารถมีกำลังซื้อได้ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งคาดว่าในภาคอสังหาฯ จะสามารถทำยอดสะพัดได้มากถึง 2 หมื่นล้านบาท

ภายในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 46 ได้รวมผู้ประกอบการกว่า 150 ราย และกว่า 1,000 โครงการมาไว้ในงาน ประกอบด้วยโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม และอื่นๆ เป็นต้น นอกจากนี้ยังเป็นการรวมสถาบันการเงินชั้นนำที่มาจัดข้อเสนอในอัตราดอกเบี้ยที่พิเศษให้กับผู้เข้าชมงาน

ทั้งนี้ หลังจากจบงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 46 ไปเมื่อวันที่ 3 พ.ย.2567 ที่ผ่านมา ตลอด 4 วัน ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค.2567 มียอดผู้เข้าร่วมงานมากกว่าครั้งที่แล้ว 20% และมียอดจองซื้อที่อยู่อาศัยภายในงานสูงขึ้นกว่าครั้งก่อนทะลุเป้าอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าหลังจบงานจะมียอดขายตามมาอีก ไม่ต่ำกว่า 2- 3 เท่าตัว โดยคิดเป็นมูลค่าต่อยอดจากการจัดงานมากกว่าหมื่นล้านบาท

จากสถิติตัวเลขการจัดงานในครั้งนี้เป็นที่น่าพอใจ โดยพบว่า ก่อนเริ่มงานสามารถคว้ายอดผู้ลงทะเบียนเข้าชมงานกว่า 10,000 คน เพิ่มขึ้นกว่าครั้งที่ผ่านมาถึง 2 เท่า อีกทั้งในระหว่างการจัดงานมียอดตัวเลขของผู้ร่วมชมงานมากกว่าครั้งที่แล้วถึง 20% นับว่ามีคนสนใจเพิ่มมากขึ้น โดยข้อมูลเบื้องต้นแบ่งช่วงกลุ่มอายุ 20-30 ปี 15% ช่วงอายุ 30-40 ปี 50% และช่วงอายุ 40-50 ปี ราว 30% ขณะที่ผู้เข้าร่วมงานในกลุ่มอายุมากกว่า 50 ปี อีก 5-10% เป็นต้น 

นอกจากนี้ในส่วนสินค้าที่อยู่อาศัยที่ได้รับความสนใจในแต่ละประเภท แบ่งความนิยมออกเป็น คอนโด 60% และทาวเฮ้าส์ คิดเป็น 20% บ้านเดี่ยว 10% ที่เหลือเป็นสินค้าประเภทบ้านแฝด อาคารพาณิชย์และอื่นๆ ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน และเนื่องจากโปรโมชั่นต่างๆ จากผู้พัฒนาโครงการที่น่าสนใจภายในงาน จึงทำให้มียอดจองอย่างมากและยอดการขอสินเชื่อเกินเป้าที่ตั้งไว้

สำหรับงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งต่อไปกำหนดจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 23 มีนาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์