ทุ่ม 100 กว่าล้านทะยานสู่ผู้นำสองล้อไฟฟ้า

        อีเอ็ม มอเตอร์ นำเสนอ “EM Qarez” รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เอาใจคนเมืองที่ต้องการความประหยัด เพราะชาร์จหนึ่งครั้งวิ่งได้ไกลถึง 70 กม. รวมทั้งได้ลงทุนอีก 150 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ รองรับการเติบโตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่อันดับสาม จากมูลค่าตลาดรวมกว่าหนึ่งพันล้านบาท



       นายธานัท ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีเอ็ม มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า อีเอ็ม เปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า EM Qarez ปี 2024 ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก “เทรนด์รักษ์โลก” ตอบโจทย์วัยรุ่น Gen Z ผู้รักความทันสมัย ด้วยดีไซน์ Chic & Cool รูปลักษณ์ที่โดดเด่น ในคอนเซ็ปต์ Urban Fashion Scooter ที่กำลังนิยมในหมู่นักขับขี่ทั่วโลก เปี่ยมไปด้วยสมรรถนะในการขับขี่ด้วยระยะทางที่ไกลมากขึ้นถึง 50-70 กิโลเมตรต่อหนึ่งการชาร์จ 

       ดังนั้น EM Qarez คือ จึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะคนเมืองที่ชื่นชอบความประหยัด เพราะหนึ่งการชาร์จจ่ายค่าไฟฟ้าเพียง 1.7 หน่วยหรือประมาณ 7 บาทเท่านั้น ประหยัดกว่าจักรยานยนต์น้ำมัน 8-10 เท่า เหมาะกับการใช้งานที่สะดวกสบาย พร้อมรับประกันมอเตอร์นาน 5 ปี หรือ 30,000 กม. และรับประกันกล่องคอนโทรลเลอร์ และแบตเตอรี่ เวลา 3 ปี หรือ 20,000 กม. และระบบไฟฟ้า 1 ปี หรือ 5,000 กม. 

       “เราค่อย ๆ พัฒนาแบรนด์ EM ให้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาในปี 2020 ได้ตัดสินใจลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มีมาตรฐาน และอีกหนึ่งหัวใจหลักของจักรยานยนต์ไฟฟ้า คือ แบตเตอรี่ เราจึงคิดว่าจะดีแค่ไหนถ้ามีโรงงานผลิตแบตเตอรี่ของเราเอง จึงเป็นอีกครั้งที่ EM ตัดสินใจลงทุนเปิดโรงงานผลิตแบตเตอรี่ โดยใช้เงินลงทุนทั้งสองโรงงานอยู่ที่ 150 ล้านบาท” นายธานัท กล่าว 

   

       ในปัจจุบันบริษัทฯ มีตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศกว่า 500 สาขา แยกเป็นจักรยานยนต์ไฟฟ้า 50 สาขา และจักรยานไฟฟ้า 450 สาขา โดยในปีที่ผ่านมาสามารถกวาดยอดขายได้สูงถึง 300 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายในปี 2567 นี้ไว้ที่ 600 ล้านบาท 

       นายธานัท กล่าวอีกว่า บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานไฟฟ้าและจักรยานยนต์ไฟฟ้าเมดอินไทยแลนด์เจ้าแรกของเมืองไทย ปัจจุบันครองอันดับ 3 ของตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งสัดส่วนมาร์เก็ตแชร์ของตลาดมอเตอร์ไซค์จะแบ่งเป็น มอเตอร์ไซค์น้ำมัน 99 เปอร์เซ็นต์ และจักรยานยนต์ไฟฟ้ามีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 1 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นให้ตลาดเติบโต คือ เทรนด์การรักษ์โลก มลพิษทางอากาศ และปัญหาฝุ่น PM 2.5 รวมถึงราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ทำให้คนตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม และปัญหาด้านพลังงาน จึงทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและจักรยานยนต์ไฟฟ้าเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญมากคือ การสนับสนุนจากภาครัฐ โดยได้ส่วนลด 18,000 บาท ราคาเหลือเพียง 38,340 บาท จากราคาปกติ 57,600 บาท 

      ดังนั้น EM จึงมุ่งมั่นที่จะผลิต และพัฒนาจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพ ราคาย่อมเยาว์ แบตเตอรี่คงทน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีบริการหลังการขายด้วยตัวแทนจำหน่ายที่เข้าใจผลิตภัณฑ์ ทีมช่างที่มีคุณภาพ เพราะเชื่อว่า “ถ้าผลิตสินค้าที่ดี มีบริการหลังการหลังการขายที่ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่น” สินค้าก็จะเป็นที่ยอมรับ และทำให้ค่อยๆ เติบโตขึ้น โดยตั้งใจว่าอีก 3 ปีข้างหน้า จะสามารถขึ้นเป็นผู้นำตลาดผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างแน่นอน 

      ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา EM มอเตอร์ ได้พัฒนาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง โดยมีแรงบันดาลใจ “จักรยานเพื่อครอบครัว” จึงเริ่มต้นนำเข้าจักรยานไฟฟ้าจากประเทศจีนมาจำหน่ายครั้งแรกในประเทศไทย กระแสตอบรับในตอนนั้นดีมากเนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปด้วยกระแสการรักสุขภาพและรักษ์โลก โดยมีปัจจัยจาก 1. สิ่งแวดล้อม 2. ฝุ่น PM 2.5 และ 3. ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทั้ง 3 ปัจจัยนี้ คือ จุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ EM ในปี 2018

 
เว็บสำเร็จรูป
×