บมจ.อรสิริน โฮลดิ้ง นำการศึกษาระดับโลกอย่าง “มิลล์ ฮิลล์ เอ็ดดูเคชั่น กรุ๊ป” เปิดสาขาแห่งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งเป้าภายในปี 2030 จะมีนักเรียนที่จำนวน 850 คน โดยค่าเล่าเรียนจะถูกกว่าที่อังกฤษถึง 3 เท่า แต่ได้รับหลักสูตรการเรียนตรงตามมาตรฐาน รวมทั้งจะมีโครงการแลกเปลี่ยนนักเรียน
นายอรรคเดช อุดมศิริธำรง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรสิริน เอ็ดดูเคชั่น จำกัด กล่าวว่า ได้มองเห็นแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งของโรงเรียนนานาชาติในไทย โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีกำลังซื้อสูงอย่างต่อเนื่องจากครอบครัวชาวต่างชาติและคนไทย และแม้ว่าปัจจุบันจะมีโรงเรียนนานาชาติในเชียงใหม่กว่า 25 แห่ง รองจากกรุงเทพ แต่ก็ยังเห็นศักยภาพสำคัญในการยกระดับมาตรฐานการศึกษาสู่ระดับโลก บริษัทฯ จึงพร้อมสนับสนุนการเติบโตของโรงเรียนนานาชาติมิลล์ ฮิลล์ อย่างครบวงจร
จากการศึกษาพบว่า ปัจจุบันมีโรงเรียนในประเทศไทยไม่มากนัก ที่ได้รับการยอมรับในฐานะ ‘British Branded Schools’ บริษัทฯ จึงมุ่งมั่นพัฒนาโรงเรียนนานาชาติที่ดีที่สุด ด้วยการลงนาม MOU กับมิลล์ ฮิลล์ เอ็ดดูเคชั่น กรุ๊ป เพื่อเปิดโรงเรียนแห่งแรกนอกสหราชอาณาจักรที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับคุณภาพการศึกษาในภูมิภาคนี้
สำหรับปัจจัยสู่ความสำเร็จ คือ เคท ไซม่อน (Kate Simon) อดีตครูใหญ่ Grimsdell มิลล์ ฮิลล์ สกูล สกูล ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงเรียน มิลล์ ฮิลล์ เอ็ดดูเคชั่น กรุ๊ป พร้อมด้วยคณะครูจากมิลล์ ฮิลล์ อังกฤษ บินตรงมารับตำแหน่งครูใหญ่คนแรกของโรงเรียนนานาชาติมิลล์ ฮิลล์ ประเทศไทย ร่วมกับ ดร. ยุทธชัย ดำรงมณี ผู้อำนวยการโรงเรียน โรงเรียนนานาชาติมิลล์ ฮิลล์ ประเทศไทย เป็นโรงเรียนนานาชาติระดับ ‘Extraordinary value’ ที่มีมาตรฐานการศึกษาเช่นเดียวกับโรงเรียนต้นแบบที่สหราชอาณาจักร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
ด้านดร.ยุทธชัย ดำรงมณี กล่าวว่า โรงเรียนนานาชาติมิลล์ ฮิลล์ ประเทศไทย จะคงมาตรฐานเดียวกับโรงเรียนต้นแบบในสหราชอาณาจักรทุกประการ นอกจากนี้ ยังนำระบบ House System มาใช้เพื่อสร้างการเรียนรู้การทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำอย่างเป็นธรรมชาติ สำหรับปีการศึกษาแรก ได้เปิดรับนักเรียนตั้งแต่ชั้น Nursery – Year 6 มียอดนักเรียนเกือบ 100 คน โดยมีสัดส่วนนักเรียนไทย 50% และมีจีน อเมริกา อังกฤษ ยุโรปอีก 50% โดยได้ตั้งเป้าหมายในอีก 5 ปีข้างหน้าว่าจะมีนักเรียนถึง 850 คน ภายในปี 2030
สำหรับค่าเล่าเรียนประมาณ 400,000-600,000 บาท ต่อปี ซึ่งถูกกว่า มิลล์ ฮิลล์ สกูล ที่ลอนดอน ถึง 3 เท่า ขณะที่นักเรียนได้รับหลักสูตรและมาตรฐานการเรียนการสอนเดียวกันทุกประการ นอกจากนี้ ยังเตรียมแผนโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนกับโรงเรียนในเครือที่อังกฤษ ซึ่งเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้สัมผัสประสบการณ์จริงและเข้าใจถึงรากฐานของการศึกษาของ มิลล์ ฮิลล์ กรุ๊ป
ขณะที่คุณกันยาณรรค์ รัตนศาสตร์ชาญ ผู้จัดการโรงเรียนนานาชาติมิลล์ ฮิลล์ ประเทศไทย กล่าวว่า โรงเรียนได้ให้ความสำคัญกับสุขอนามัยและความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ด้วยการคัดสรรสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมกับพัฒนาการของนักเรียนแต่ละช่วงวัย พร้อมหลักสูตร Forest School ห้องวิทยาศาสตร์, ห้องศิลปะ, ห้องดนตรี, ห้องสมุด และพื้นที่สำหรับกีฬาในร่มและกลางแจ้ง ตลอดจนมาตรการ Security & Safety ที่เข้มงวด รวมถึงการติดตั้งระบบ Positive Air Pressure และเครื่องวัดค่าฝุ่น PM2.5
โรงเรียนได้วางแผนการขยายตัวในช่วง 4 ปี ข้างหน้า ตั้งแต่ระดับอนุบาล จนถึง Year 13 โดยจะเริ่มต้นรับสมัครนักเรียนตั้งแต่ระดับ Nursery ถึง Year 6 ในปีการศึกษาแรก 2568 และจะทยอยเปิดในทุกปี จนเต็มเฟสในปีการศึกษา 2571 ประกอบด้วย อาคารหอประชุม Sport Complex ที่ครอบคลุม สระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิก, สนามกีฬาเทนนิส, สนามฟุตบอลขนาดมาตรฐานพร้อมลู่วิ่ง และอาคารยิมเนเซียมที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังมี Boarding School เพื่อเตรียมรองรับการขยายตัวของโรงเรียน
ทั้งนี้ มิลล์ ฮิลล์ สกูล ก่อตั้งขึ้น ณ กรุงลอนดอน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1807 ด้วยการสั่งสมปรัชญาการศึกษามานานกว่า 200 ปี ปัจจุบัน มิลล์ ฮิลล์ เป็นส่วนหนึ่งของ มิลล์ ฮิลล์ เอ็ดดูเคชั่น กรุ๊ป ที่มีเครือข่ายโรงเรียนพันธมิตรทั่วโลก และเห็นว่าเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางการศึกษาภาคเหนือ มีชื่อเสียงระดับโลกด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ใกล้ชิดธรรมชาติเช่นเดียวกับ Mill Hill School UK ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญา Forest Learning ทำให้มองเห็นโอกาสนำมาตรฐานการศึกษาแท้จริงจากลอนดอนมาสู่ภูมิภาคนี้เป็นครั้งแรก โดยผสมผสานหลักสูตรอังกฤษแท้ (The National British Curriculum in England) กับวัฒนธรรมและคุณค่าดั้งเดิมของไทย เน้นพัฒนาศักยภาพเพื่อสร้างความสมดุลให้ผู้เรียนอย่างสมบูรณ์แบบ
โรงเรียนนานาชาติมิลล์ ฮิลล์ ประเทศไทย พร้อมแล้วที่จะยกระดับมาตรฐานการศึกษาของประเทศ และสร้างเยาวชนรุ่นใหม่ที่มีความพร้อมเชื่อมโยงสู่โลกที่ไร้พรมแดน เพื่อการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างมีความสุข