ทีมนักวิจัยไทย 3
คนจากคณะวิศวะมหิดล ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล คิดค้นเป็นครั้งแรกด้วยนวัตกรรม
‘ระบบส่งยาฉีดรักษามะเร็งสมองจากเจลชีวพอลิเมอร์’
โดยส่งยาเข้าถึงเป้าหมายมะเร็งในสมองได้ตรงจุด โดยไม่มีพิษต่อร่างกาย เป็นความหวังของคนไทยที่จะได้เห็นผลงานวิจัยนี้ไปสู่การผลิตใช้จริงในการต่อสู้กับมะเร็ง
ศ.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์
รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล กล่าวว่า มะเร็งเป็น 1 ใน 5
โรคร้ายแรงที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุด โดยในประเทศไทยปี 2563
มีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง เฉลี่ยวันละ 342 คน หรือ 124,866 คนต่อปี
และมีผู้ป่วยใหม่ถึง 190,636 คน แม้ว่าผู้ป่วยมะเร็งสมองจะมีสัดส่วนน้อย เพียง 1%
เมื่อเทียบกับผู้ป่วยโรคมะเร็งทั้งหมด แต่การแพร่ลามของเนื้อมะเร็งจากอวัยวะอื่นๆ
ย่อมก่อให้เกิดภาวะความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งสมองได้เช่นกัน
ด้าน รศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์
คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า วิศวกรรมชีวการแพทย์
มีบทบาทสำคัญยิ่งในโลกของการแพทย์และความมั่นคงทางสุขภาพ
นวัตกรต่างมุ่งการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีระบบส่งยาเข้าสู่ร่างกายมนุษย์เพื่อรักษาโรค
หรือ DDS (Drug Delivery System) ซึ่งมีความต้องการและการเติบโตสูงมาก
เพื่อคิดค้นวิธีการบำบัดรักษามนุษย์ให้แม่นยำตรงเป้าหมาย (Precision
Medicine) เกิดประสิทธิผลในการช่วยชีวิตมนุษย์ได้มากยิ่งขึ้น
และลดผลกระทบต่อระบบในร่างกายมนุษย์ ความสำเร็จในนวัตกรรม
‘ระบบส่งยาฉีดรักษามะเร็งสมองจากเจลชีวพอลิเมอร์’
นับเป็นครั้งแรกในอาเซียนโดยทีมวิจัยคนไทย ประกอบด้วย รศ.ดร.นรเศรษฐ์ ณ สงขลา
หัวหน้าทีมวิจัยและหัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหิดล รศ.นพ.อัตถพร บุญเกิด แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมระบบประสาท
ภาควิชาศัลยศาสตร์ และ ศ.นพ.สุรเดช หงส์อิง ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ขณะที่รศ.ดร.นรเศรษฐ์ ณ สงขลา
หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.มหิดล กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งสมอง
หรือ เนื้องอกสมองนั้น กว่าจะได้รับการตรวจพบหรือรักษา ทำได้ค่อนข้างช้า
เนื่องจากอาการเบื้องต้นไม่เด่นชัดมากนัก
เนื้องอกสามารถขยายตัวเพิ่มขึ้นตามเวลาซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความกดดันภายในกะโหลกศีรษะเพิ่มขึ้น
ทำให้ปวดศีรษะ อาเจียน ประสาทตาบวม อาจหูหนวกหนึ่งข้าง ความคิดช้าลง
บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง หรือมีอาการชักกระตุก เป็นต้น
ขึ้นอยู่กับว่าเนื้องอกอยู่ตำแหน่งใดของสมอง
โดยปัจจุบันวิธีรักษาที่ใช้กับโรคมะเร็งเป็นหลัก ได้แก่ ทำเคมีบำบัด การผ่าตัด
และการฉายรังสี ซึ่งวิธีดังกล่าวยังมีข้อจำกัดและผลข้างเคียงสูง
ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหานี้
ทางทีมนักวิจัยจึงได้พัฒนานวัตกรรม
‘ระบบส่งยาฉีดรักษามะเร็งสมองจากเจลชีวพอลิเมอร์’
ที่สามารถส่งตรงยาหรือสารออกฤทธิ์ต่างๆ
ไปยังเซลล์มะเร็งหรือเนื้องอกในสมองได้อย่างตรงจุด ซึ่งจะช่วยลดการสูญเสียปริมาณยา
รวมถึงลดการเกิดความเป็นพิษต่อเซลล์และอวัยวะปกติได้เป็นอย่างดี
ทีมวิจัยวิศวะมหิดล ได้คิดค้นและสังเคราะห์
ชีวพอลิเมอร์ (BioPolymer)
และพัฒนาเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบส่งยาฉีดเพื่อรักษามะเร็งสมอง
โดยไม่เป็นพิษต่อร่างกายและสามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ โดยเลือกมาจากโคพอลิเมอร์ (Co-Polymer)
ที่ประกอบด้วยพอลิเมอร์ที่คัดสรรชนิดต่างๆ
โดยเมื่อฉีดยาเข้าสู่เนื้องอกหรือมะเร็งในอวัยวะสมอง
สารละลายพอลิเมอร์เข้าสู่ร่างกาย น้ำที่อยู่ในร่างกายจะแทรกซึมเข้าไป
ทำให้เกิดการเปลี่ยนสภาพจากสารละลาย เป็น สารกึ่งแข็งกึ่งเหลว หรือ เจลชีวพอลิเมอร์
ซึ่งจะทำหน้าที่กักเก็บยาต้านมะเร็งสมอง 7-Ethyl-10-Hydroxycamptothecin
(SN-38) ที่อยู่ภายใน และค่อยๆ ปลดปล่อยเข้าสู่มะเร็งในสมอง
ได้นานกว่า 60 วัน และหลังจากนั้นจะย่อยสลายไป ในความสำเร็จของการวิจัยนี้ ได้พัฒนาทดสอบและได้ศึกษาวิจัยผลของการต้านมะเร็งที่มีต่อเซลล์
Glioblastoma U87MG ของมนุษย์และแบบจำลองของสัตว์
รศ.นพ.อัตถพร บุญเกิด
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมระบบประสาท ภาควิชาศัลยศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ระบบส่งยาดังกล่าวนี้ เป็นทางเลือกที่ดีและตอบโจทย์ข้อจำกัดของการรักษาด้วยการผ่าตัด
หรือวิธีผสมผสานการผ่าตัดกับการฉายรังสี ซึ่งยังมีอัตราการรอดชีวิตที่ต่ำ
เนื่องจากสมองเป็นอวัยวะที่มีความละเอียดอ่อน ซับซ้อน
และอ่อนไหวต่อหลายระบบในร่างกาย ทำให้ยากลำบากต่อการผ่าตัดเอาเซลล์มะเร็งสมองออกมาให้หมดได้
เมื่อนำก้อนมะเร็งออกแล้ว สามารถใช้เจลชีวพอลิเมอร์ที่มีตัวยานี้วางรอบๆ
ขอบเขตแผลผ่าตัดที่อาจมีเชื้อของเซลล์มะเร็งหลงเหลืออยู่ เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ
ศ.นพ.สุรเดช หงส์อิง ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า
การรักษามะเร็งสมองด้วยวิธีใหม่นี้จะสามารถช่วยทดแทนการทำเคมีบำบัด
ซึ่งมีข้อจำกัดในด้านความเป็นพิษสูง
และความสามารถของยาในการเข้าไปสู่อวัยวะเป้าหมายนั้นต่ำ
เนื่องจากการออกฤทธิ์ของเคมีบำบัดต้องผ่านหลายระบบต่างๆ ของร่างกาย
ทำให้สูญเสียปริมาณยาไปกับระบบต่างๆ ในร่างกายจำนวนมาก
อีกทั้งเกิดผลข้างเคียงกับเซลล์และอวัยวะต่างๆ
สำหรับผลการวิจัยพบว่า
‘ระบบส่งยารักษามะเร็งสมองจากเจลชีวพอลิเมอร์’
สามารถหยุดยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งได้และเหมาะกับมะเร็งชนิดที่อยู่กับที่ เช่น
มะเร็งตามอวัยวะต่างๆ แต่ไม่เหมาะกับมะเร็งชนิดแพร่กระจาย ทั้งนี้
ได้ผ่านการทดสอบกับหนูได้ผลดี และทำการทดสอบกับคนในเฟสที่ 1 ปี 2564
ในผู้ป่วยมะเร็งสมอง จำนวน 7 ราย ประสบผลสำเร็จน่าพอใจ พบว่าไม่มีพิษต่อร่างกาย
และมะเร็งสมองมีการตอบสนองที่ดีกับระบบส่งยาที่ฉีดเข้าไป ส่วนแผนงานทดสอบเฟสที่ 2
ในผู้ป่วยมะเร็งสมองกลุ่มใหม่ 10 ราย ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2565
เป็นต้นมา หลังจากนั้นจะทดลองเฟสที่ 3 ต่อไป
ซึ่งแนวโน้มคาดว่าผลการศึกษาผู้ป่วยมะเร็งสมองจะได้ผลลัพธ์ที่ดี
การสนับสนุนทุนวิจัยขั้นต่อไปเป็นความหวังของคนไทยที่จะได้เห็นผลงานวิจัยนี้ไปสู่การผลิตใช้จริงในการต่อสู้กับมะเร็งเพื่อช่วยชีวิตคนไทยและเพื่อนมนุษย์ทั่วโลกได้จำนวนมาก
จุดเด่นและประโยชน์ของนวัตกรรม
‘ระบบส่งยารักษามะเร็งสมองจากเจลชีวพอลิเมอร์’ มี 7 ด้านด้วยกัน คือ
1.ลดการสูญเสียชีวิตจากมะเร็งสมองและมะเร็งชนิดอื่นๆ ให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงนวัตกรรม
2.ลดความเสี่ยงของผู้ป่วยจากผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพจากพิษของวิธีการรักษามะเร็ง
3.ชีวพอลิเมอร์ (BioPolymer) ช่วยเพิ่มประสิทธิผลการรักษามะเร็งสมอง
สามารถทำละลายและกักเก็บยา โดยสามารถค่อยๆ
ปล่อยสารออกฤทธิ์สู่อวัยวะได้ตรงเป้าหมายนานถึง 60 วัน
4.ย่อยสลายได้และไม่มีพิษต่อร่างกาย
5.มีความเข้ากันได้ทางชีวภาพต่อมนุษย์ตามมาตรฐานสากล
6.ช่วยส่งเสริมพัฒนาเฮลท์เทคและเฮลท์แคร์เมดอินไทยแลนด์
และการก้าวเป็นฮับศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพในภูมิภาคโลก
7.ประยุกต์ใช้นวัตกรรมนี้กับการรักษามะเร็งชนิดอื่นๆ ต่อไปในอนาคต
ลดการนำเข้าเวชภัณฑ์ราคาสูง
ทั้งนี้ โรคมะเร็งสมองเป็นภาวะความผิดปกติของการเจริญเติบโตของเซลล์สมองที่มีการขยายตัว
เจริญเติบโตอย่างผิดปกติ จนทำให้เกิดภาวะเริ่มแรก “เนื้องอก” ก่อนที่จะค่อยๆ
ลุกลามไปกดทับเส้นเลือดหรือเส้นประสาทในสมองจนทำให้เกิดเป็นเนื้อร้ายในที่สุด
ทั้งนี้ มะเร็งสมองในผู้ใหญ่โอกาสหายขาดมีน้อยไม่ถึง 10% ความสำเร็จของการพัฒนานวัตกรรม
‘ระบบส่งยาฉีดรักษามะเร็งสมองจากเจลชีวพอลิเมอร์’
ถือเป็นความร่วมมือในการวิจัยพัฒนาระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์
กับคณะแพทยศาสตร์รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยในการต่อสู้กับมะเร็งสมอง
และต่อยอดนำไปรักษามะเร็งชนิดอื่นๆ ในอนาคตด้วย
|