แม็คซ์ฟู๊ดหนุนไทยเบอร์ 1 เอเชียส่งออกไอศกรีม

         แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป ลงทุนเพิ่ม 120 ล้านบาท ทั้งขยายโรงงานผลิตไอศกรีมผลไม้ และซื้อที่ปลูกวัตถุดิบเอง ส่งผลให้ได้ปริมาณเพิ่มขึ้น 18 ล้านชิ้นต่อปี จากเดิม 9 ล้านชิ้นต่อปี ทำให้คาดการณ์ว่ายอดขายจะทำได้ถึง 400 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันส่งออกเกือบ 100% โดยได้เริ่มทำตลาดในประเทศซาอุฯ และจีนแล้ว ตามด้วยสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ที่จะส่งไปจำหน่ายปลายปีนี้ 



          นายฐานพงศ์ จุ้ยประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า จากข้อมูลของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้ระบุถึงมูลค่าการส่งออกไอศกรีมของประเทศไทยปี 2566 อยู่ที่ 148.21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.3% โดยไทยเป็นผู้ส่งออกไอศกรีมอันดับ 1 ของเอเชีย และเป็นอันดับที่ 4 ของโลก ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตของบริษัทฯ ที่เป็นผู้ผลิตไอศกรีมซอร์เบในลูกผลไม้ ไอศกรีมผลไม้ และ โมจิไอศกรีม ทำให้ปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวมสูงถึง 340 ล้านบาท เติบโตประมาณ 30% แต่ยังน้อยกว่าเป้าที่วางไว้ที่ 400 ล้านบาท

          อย่างไรก็ตาม จากปัญหาของผลไม้สดที่เป็นวัตถุดิบไม่เพียงพอในการผลิต และกำลังการผลิตของโรงงานเต็มแล้ว ส่งผลให้มีสินค้าค้างส่งแก่ลูกค้าถึง 40 ตู้คอนเทนเนอร์ หรือ คิดเป็นเงินประมาณ 60 ล้านบาท แต่ปีนี้ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขแล้วทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนขยายโรงงานและเพิ่มกำลังการผลิต การบริหารจัดการเรื่องวัตถุดิบด้วยการลงทุนปลูก จัดหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ๆ เพิ่ม และสต๊อกผลไม้เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตได้ตลอดปี ทำให้สามารถส่งไอศกรีมแก่ลูกค้าได้ในทุกคำสั่งซื้อ ทั้งคำสั่งซื้อที่ค้างอยู่ คำสั่งซื้อใหม่ และรองรับลูกค้าใหม่ๆ ที่จะเพิ่มขึ้น ทำให้คาดว่ารายได้รวมในปีนี้จะอยู่ที่ 400 ล้านบาท



         การขยายโรงงานและเพิ่มกำลังการผลิตนั้น มีการลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ได้ขยายให้มีขนาดใหญ่ขึ้น รองรับกับเครื่องจักรและสายการผลิตไอศกรีมที่เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด สามารถลดเวลาในการผลิตไอศกรีมผลไม้ 1 ลูก จากเดิมที่ใช้เวลา 3 วัน เหลือเพียงแค่ 10 นาที ทำให้เพิ่มกำลังการผลิตจากปีละ 340 ตู้คอนเทนเนอร์ หรือ คิดเป็นไอศกรีมประมาณ 9 ล้านชิ้นต่อปี เพิ่มเป็น 720 ตู้คอนเทนเนอร์ หรือ คิดเป็นไอศกรีมประมาณ 18 ล้านชิ้นต่อปี ซึ่งโรงงานใหม่จะเสร็จสิ้นและดำเนินการผลิตได้ในไตรมาส 3 ของปีนี้ 

         ส่วนการแก้ปัญหาด้านวัตถุดิบไม่เพียงพอต่อการผลิตนั้น นายฐานพงศ์ กล่าวว่า ทางบริษัทฯ ได้มีแผนระยะยาวโดยลงทุนกว่า 20 ล้านบาท ในการปลูกสับปะรดจำนวน 1,000 ไร่ ที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งสับปะรดเป็นวัตถุดิบสำคัญของการผลิตไอศกรีมผลไม้ที่เป็นผลิตภัณฑ์หลัก โดยคาดว่าจะได้ผลผลิตช่วงปลายปีนี้ประมาณ 1 ล้านลูก และจะเพิ่มเป็น 6 ล้านลูกในปีต่อๆ ไป พร้อมกันนั้นยังได้สร้างห้องเย็นเพื่อจัดเก็บวัตถุดิบทำให้สต๊อกวัตถุดิบเพิ่มได้มากถึง 40 ตู้คอนเทนเนอร์ หรือประมาณ 1 ล้านชิ้น ทำการปรับปรุงการบริหารจัดการด้านการจัดซื้อวัตถุดิบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้รับซื้อและจัดเก็บผลไม้ในฤดูกาลที่มีผลผลิตมากได้ในราคาที่ไม่สูงเกินไป และถือเป็นการช่วยเกษตรกรทางอ้อมอีกด้วย 

        ขณะที่ด้านการตลาดและการจัดจำหน่ายนั้น ยังคงเน้นส่งออกต่างประเทศเป็นหลัก 99% และขายในประเทศเพียง 1% โดยไอศกรีมในลูกผลไม้ยังคงครองอันดับหนึ่งในประเทศเกาหลี ส่วนประเทศฝรั่งเศส ออสเตรเลีย มีการทำตลาดเพื่อสร้างความรู้จักมากขึ้น แต่ตลาดที่น่าสนใจมีศักยภาพสูงและเป็นประตู สำคัญ คือ ซาอุดีอาระเบีย เนื่องจากมีกำลังซื้อสูงและเชื่อมต่อไปยังประเทศในแถบอาหรับและแอฟริกาได้ ส่วนจีนเป็นตลาดใหญ่ มีการบริโภคสูง ซึ่งทั้งสองประเทศนี้ทางบริษัทฯ ได้เริ่มมีการส่งสินค้าเข้าไปจำหน่ายบ้างแล้วและผลตอบรับเป็นไปด้วยดี คาดว่าจะสามารถพัฒนาต่อไปเป็นตลาดสำคัญได้ นอกจากนั้นยังได้เริ่มมีการเปิดตลาดใหม่กับทางสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเจรจาและพัฒนาสูตร คาดว่าจะสามารถส่งผลิตภัณฑ์เข้าไปจำหน่ายได้ประมาณปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า 

         

        กลุ่มผลิตภัณฑ์ของ แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป ประกอบด้วย ไอศกรีมซอร์เบในลูกผลไม้ เป็นผลิตภัณฑ์หลักที่มีสัดส่วนสูง 80% โมจิไอศกรีม 15% และ ไอศกรีมผลไม้แท่ง 5% ส่วนผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปิดตัวในปีนี้เป็นไอศกรีมซอร์เบผลไม้ชนิดถ้วยขนาด 210 กรัม มี 6 รสชาติ ประกอบด้วยสับปะรด เสาวรส แตงโม มะพร้าว มะม่วง และแก้วมังกร โดยจะเปิดตัวครั้งแรกในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2024 ซึ่งไอศกรีมชนิดถ้วยจะเป็นคนละตลาดกับไอศกรีมซอร์เบในลูกผลไม้ แต่ยังเน้นตลาดส่งออกเช่นเดิม โดยจะเริ่มจำหน่ายในเกาหลีก่อน 

        จุดเด่นของไอศกรีมชนิดถ้วย คือ การเจาะเข้าสู่ฐานผู้บริโภคในวงกว้าง โดยจำหน่ายผ่านช่องทาง รีเทล ซูเปอร์มาร์เก็ต อาทิ Costco, GS25, 7-ELEVEN นอกจากนั้นยังเปิดกว้างในการรับจ้างผลิต (OEM) แบบครบวงจร โดยลูกค้าที่สนใจสามารถร่วมพัฒนาสูตรได้ โดย แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป จะดูแลเรื่องการผลิต บรรจุ พร้อมส่งออกไปยังปลายทางให้ได้อีกด้วย

 
เว็บสำเร็จรูป
×