KX เปิดตัวนวัตกรรมจากโครงการ KX TECHBITE 5.0 โดยในปีนี้มีสตาร์ทอัพจากหลายธุรกิจร่วมนำเสนอสินค้าและบริการแห่งโลกอนาคตที่น่าสนใจ
อาทิ CarbonFlow
การวัดคาร์บอนเครดิตสำหรับป่าไม้เศรษฐกิจ Tinman Thailand พัฒนาและสรรหาบุคลากร Bioblack กราโนลาอาหารเพื่อสุขภาพ SCAMTIFY ป้องกันการหลอกลวงทางออนไลน์
นอกจากนี้ยังมีผลงานเด่นที่ได้การยอมรับ เช่น NPI ที่นอนป้องกันแผลกดทับ Modgut
ดูแลเรื่องลำไส้
KX - Knowledge Xchange หรือศูนย์แลกเปลี่ยนและส่งเสริมนวัตกรรมนานาชาติครบวงจร
จัดงานเปิดตัวนวัตกรรมจากโครงการ KX TECHBITE 5.0 โดย Startups
: Investment and Demo Day รวมพลังภาคอุตสาหกรรม ภาคเอกชน ภาครัฐ
ชูธงสตาร์ทอัพผู้ประกอบการและนวัตกรรมเด่นวางตลาดโลก
เพื่ออนาคตเศรษฐกิจไทยที่ยั่งยืน ก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง
ท่ามกลางภูมิรัฐศาสตร์โลกที่เปลี่ยนโฉมไป พร้อมผู้นำวงการ Startups,
Venture Capital และนักลงทุนที่มาร่วมงาน
ดร.ภัทรชาติ
โกมลกิติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KX - Knowledge Xchange กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังก้าวสู่ยุคที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและกำลังคนที่มีไอเดียสร้างสรรค์และสร้างความเปลี่ยนแปลงได้
รัฐบาลมีแนวนโยบาย Ignite Thailand ยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก
ซึ่งเศรษฐกิจ การเมือง สังคม เทคโนโลยี
และสิ่งแวดล้อมล้วนเชื่อมโยงเป็นเนื้อเดียวกัน
ดังนั้นหากมองอนาคตเศรษฐกิจไทยจะมั่นคงยั่งยืนและก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลางได้นั้น
ภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม-เอกชน ภาคการศึกษาของไทยต้องปรับตัวรอบด้าน
วางแผนอย่างมีกลยุทธ์ ลงทุนให้ถูกทิศทาง
ไม่เพียงดึงนักลงทุนมาเปิดอุตสาหกรรมในไทยเท่านั้น แต่ประเทศไทยต้องพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีขึ้นมาเองที่สามารถขยายสเกลออกสู่ตลาดโลกได้
สำหรับผลการดำเนินงาน
KX - Knowledge Xchange ปี 2021 -2024
ได้สร้างผลดีต่อระบบนิเวศสตาร์ทอัพซึ่งเป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรม
โดยสร้างสตาร์ทอัพ 202 ทีม เจรจาจับคู่ธุรกิจ 103 ราย จัดกิจกรรมส่งเสริมนวัตกรรม
2,500 งาน ร่วมมือกับหุ้นส่วนพันธมิตรกว่า 80 องค์กร จัดหาแหล่งทุนกว่า 4.8
ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ราว 177 ล้านบาท และ Total Portfolio Valuation มีมูลค่า 24 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในโลกปัจจุบัน
คนไทยไม่สามารถเดินเพียงลำพังได้ การเติบโตต้องเข้าถึง การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และร่วมทำงานกับเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ
โดยจะเห็นว่า KX สามารถสร้าง 202 สตาร์ทอัพจาก 11 ประเทศ และยังเป็นแหล่งรวม
Mentors ชั้นนำจาก 6 ประเทศ และหุ้นส่วนพันธมิตรระดับโลก
เป้าหมายของ KX จะสร้างแพลตฟอร์มนวัตกรรมเปิดเพื่อเสริมพลังศักยภาพให้ผู้ประกอบการในการนำโซลูชั่นเทคโนโลยีมาสู่ตลาดในทุกระยะของเส้นทางนี้
KX ร่วมทำงานกับภาคอุตสาหกรรมและภาครัฐในการยกระดับทีมที่เปี่ยมพลังเพื่อสร้างสรรค์ความก้าวหน้าเติบโตทางสังคมและเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน
ผลงานเด่น KX ที่เป็นความสำเร็จจากสตาร์ทอัพ
ซึ่งได้รับความสนใจในตลาดนานาชาติ อาทิ
ออสซีโอแล็บส์ (OsseoLabs) นับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของเทคโนโลยีทางดิจิทัลเฮลท์แคร์และการแพทย์
ด้วยโซลูชั่นและวัสดุทดแทนกระดูกแบบมีรูพรุน 3D พริ้นติ้งเฉพาะบุคคล
รายแรกของเอเซีย ปฏิวัติรูปแบบใหม่ของระบบปลูกถ่ายผ่าตัดขากรรไกรใบหน้า กระดูก
และข้อ สำหรับผู้ป่วยมะเร็งช่องปากซึ่งคนไทยเสียชีวิตเป็นอันดับต้นๆ ของมะเร็ง
รวมถึงผู้ป่วยโรคกระดูกส่วนต่างๆ และผู้ประสบอุบัติเหตุ ได้ผลตอบรับดีในสหรัฐฯ และนานาชาติ
กำหนดวางตลาดโลกในปี 2567 ก่อนหน้านี้สตาร์ทอัพ “ออสซีโอแลบส์”
ได้ทำความร่วมมือกับโรงพยาบาลชั้นนำ และคว้าหลายรางวัลในประเทศไทยและต่างประเทศ
ปัจจุบันได้รับการสนับสนุนจากเงินทุนร่วมลงทุนกว่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐ
ขณะนี้กำลังเตรียมเปิดตัวขั้นตอนการผ่าตัดในระดับสากล
เช่น การสร้างขากรรไกรล่าง การสร้างกระดูกเท้าใหม่ การสร้างกระดูกสันหลังใหม่
ทั้งนี้เทคโนโลยี TPMS ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร
ซึ่งช่วยให้การปลูกถ่ายกระดูกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและปรับแต่ง
กระดูกทดแทนนี้ทำจากวัสดุไทเทเนียมที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเชิงกลออกแบบรูพรุน
เหมือนตาข่ายภายในซึ่งช่วยให้มีน้ำหนักเบา อีกทั้งเทคโนโลยี 3D สามารถสแกนและปรับแต่งได้ตามความแตกต่างของสรีระแต่ละคนทั้งรูปร่าง ขนาด
ความหนา และ ‘โครงสร้างรูพรุน’ ที่เป็นลิขสิทธิ์ ออสซีโอแลบส์
มีความเข้ากันได้กับร่างกายมนุษย์
อัตราการปฏิเสธจึงต่ำกว่าอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับวิธีการทั่วไป
ประกันผลลัพธ์ที่ดีกว่าของผู้ป่วย คาดว่า ’ออสซีโอแลบส์’
จะพลิกโฉมการผ่าตัดปลูกถ่ายกระดูกส่วนต่างๆ ทั่วโลก
เอ็นพีไอ (NPI) โดยสตาร์ทอัพไทย
คิดค้นระบบที่นอนอัจฉริยะอัตโนมัติควบคุม-ป้องกันแผลกดทับและกระจายการรับแรง
โดดเด่นด้วย Robotic AI เซ็นเซอร์เชื่อมต่อ IoT เป็นรายแรกของโลก
ระบบจะยิงข้อมูลไปบนคลาวด์แล้วส่งกลับมาพร้อมปรับที่นอนให้เหมาะกับผู้ป่วยอย่างอัตโนมัติ
หากแพทย์ต้องการปรับสภาวะที่นอนเพิ่มเติมสามารถทำได้ผ่าน iPad ช่วยลดแผลกดทับสำหรับคนป่วยติดเตียง ลดอัตราการเสียชีวิต ช่วยให้การรักษาฟื้นฟูได้เร็วยิ่งขึ้น
มุ่งขยายตลาดจากไทยไปยังเอเซียและอเมริกา ได้แก่ ไต้หวัน แคนาดา สิงคโปร์ มาเลเซีย
อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน แคนาดา
หมุดจัดฟันขนาดเล็กความแข็งแรงสูง (ZeroLoss) เป็นรายแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยีอากาศยาน
(FSP : Fine Shot Peening) โดยกระบวนการยิงปรับพื้นผิวแรงสูงด้วยอนุภาคละเอียดที่ปลอดภัยทางชีวภาพ
ทำให้โครงสร้างภายในแข็งแรง เสริมประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการจัดฟัน
ปัจจุบันได้นำร่องส่งออกไปยังเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
ไอคิวบ์ (iCube) โซลูชั่นบริหารจัดการอุตสาหกรรมแบบไร้รอยต่อ
ช่วยให้การตัดสินใจเชิงธุรกิจเป็นไปด้วยประสิทธิภาพ
สามารถวิเคราะห์และจัดการข้อมูลการผลิตแบบเรียลไทม์ ลดต้นทุน
และพัฒนากระบวนการผลิต
มตกัต (Modgut) สุขภาพที่ดีเริ่มที่จุลินทรีย์ลำไส้
ซึ่งดูแล 70% ของระบบภูมิคุ้มกันและเกี่ยวข้องกับ 90% โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
สตาร์ทอัพไทยได้วิจัยพัฒนาด้วยความร่วมมือจากโรงพยาบาลชั้นนำ
เปิดบริการวิเคราะห์ไมโครไบโอมเฉพาะบุคคล และวางตลาด 4 สูตรอาหารเพื่อสุขภาพ
‘พรีฟังชั่นนัล โปรไบโอติกส์’
พร้อมคำแนะนำปรับมื้ออาหารให้สอดคล้องและสนองตอบต่อสุขภาพที่ดีของแต่ละคน ลดจุลินทรีย์ตัวร้ายและความเสี่ยงต่อโรคภัย
มุ่งขยายตลาดไปยังสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม
ด้าน ดร.เคตะ โอโน
ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรม KX Knowledge Xchange กล่าวว่า
หนึ่งในกิจกรรมสำคัญของวงการสตาร์ทอัพและนวัตกรรมของไทย คือ โครงการ TECHBITE
ซึ่งปี 2567 KX เน้นย้ำคุณภาพระดับอินเตอร์อย่างต่อเนื่อง
ผนึกกำลังพันธมิตรทั้งในและนานาชาติ โครงการ TECHBITE 5.0
เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 ถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ได้รับความสนใจอย่างมาก
มีทีม Startup สมัครเข้าร่วม 80 บริษัท จากหลายอุตสาหกรรมทั่วประเทศไทยและชาวต่างประเทศด้วย
KX โดยผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ได้ส่งเสริมให้ความรู้
ดำเนินการบ่มเพาะ วิจัยพัฒนาแนวคิด การวิเคราะห์ทดสอบทดลองความเป็นไปได้
สนับสนุนเครื่องมืออุปกรณ์ของศูนย์ KX ในการสร้างต้นแบบ
รวมทั้งเสริมทักษะผู้ประกอบการ วางแผนการตลาด
การหาแหล่งเงินทุนที่คาดหวังสำหรับการเติบโตในอนาคต ในขั้นสุดท้ายของโครงการ TECHBITE
5.0 ผู้เชี่ยวชาญ KX ได้คัดเลือกผลงานของ Startup
มานำเสนอแนวคิดนวัตกรรมบนเวที KX TECHBITE 5.0:
Investment and Demo Day แก่คณะกรรมการและผู้ร่วมงาน มีจำนวน
13 ทีม ได้แก่
• คาร์บอน โฟลว์ (CarbonFlow) แพลตฟอร์มการวัดคาร์บอนเครดิตสำหรับป่าไม้เศรษฐกิจ
สวนไร่เกษตร เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ยูคาลิปตัส
โดยใช้หอวัดการไหลของคาร์บอน, AI และดาวเทียม
เพื่อลดค่าใช้จ่ายลงจากวิธีเดิมได้ถึง 10 เท่า
• แมค ออกซิไดซิ่ง (MAC Oxidizing) เทคโนโลยีบำบัดมลพิษ มี 2 ชนิด คือ
1.บำบัดก๊าซเรือนกระจก 2.บำบัดสารพิษในน้ำอย่างสมบูรณ์ ไม่มีของเสียเหลือทิ้ง
ผลลัพธ์การบำบัดก๊าซกลายเป็นคาร์บอนไดออกไซด์บริสุทธิ์ที่สามารถนำมาใช้หมุนเวียนทำเมทานอล
หินปูน และปุ๋ยน้ำ ได้
• อินดิสทิงท์ (InDistinct) ระบบ AI และออโตเมชั่นในการยืนยันตัวตนการเข้าออกอาคาร
และการทำธุรกรรมการเงินอย่างไร้กระดาษ รองรับสังคมดิจิทัลอย่างแท้จริง
• คลินซ์ (CLINS) เป็นแพลตฟอร์มช่วยร่นเวลาการทดสอบยา อาหาร
และอุปกรณ์การแพทย์ ลงได้กว่า 35% เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมเวชภัณฑ์และเฮลท์เทค
• สแกมทิฟาย (SCAMTIFY) แพลตฟอร์มป้องกันการหลอกลวงทางออนไลน์ ด้วย AI
เพียงคลิ๊กเดียวเท่านั้น
ตรวจสอบความเสี่ยงเพื่อท่องโลกออนไลน์อย่างปลอดภัย
• ดูโฟนิกส์ (duPhonics) แพลตฟอร์ม AI การเรียนรู้ด้านการอ่านเขียนและ
STEM ในโลกเมตาเวิร์สแบบเรียลไทม์ มีให้เลือกทั้ง ภาษาไทย
และภาษาอังกฤษ สำหรับเด็กเจน-อัลฟ่า วัย 4 -15 ปี
• ยูเฟเซีย (Uphasia) แอปพลิเคชั่นฟื้นฟูทักษะการพูดของผู้ป่วยโรคทางสมอง
• ไบโอแบล็ค (Bioblack) กราโนลาอาหารเพื่อสุขภาพจากข้าวเหนียวดำ GI
โบราณของชาวล้านนา
วิถีเกษตรอินทรีย์ด้วยการทำงานร่วมกับชุมชนในรูปของ BioBlack Community
Enterprise
• มุม (MOOM) แพลตฟอร์มออกแบบโครงการสถาปัตยกรรมมุ่งสู่ความยั่งยืน
ประเมินค่าใช้จ่าย และประหยัดค่าใช้จ่าย
• ทินแมนไทยแลนด์ (Tinman Thailand)เป็นแพลตฟอร์มพัฒนาและสรรหาบุคลากรใช้ประเมินจับคู่นักศึกษากับอาชีพที่เหมาะสม
ด้านนายจ้างสามารถหาคนได้ตรงกับงาน บุคคลิก และสไตล์ที่องค์กรกำหนดไว้
• แฮปโป (HAPPO) แอปพลิเคชั่นส่งเสริมสุขภาพจิต สุดล้ำด้วย AI
และการวิเคราะห์สเปกตรัมช่วยให้จิตแพทย์/นักจิตวิทยาสามารถจำแนกสถานะและปัญหาสุขภาพจิต
จากนั้นจะแนะนำแนวทางแก้ปัญหา
• โค้ดเวนเจอร์ (CodeVenture) แพลตฟอร์ม AI การเรียนรู้การเขียนโปรแกรม
Gamified Coding โดยใช้ AI ในการประเมินผู้เรียน
ในการต่อยอดการเรียนรู้ เด็กผู้เรียนจะได้รับ Hard Skills ในการเขียนโปรแกรม
coding พร้อมไปกับ Soft Skills ทักษะการแก้ปัญหาและการคิดอย่างเป็นระบบ
• ทาราโก (TaraGo) แอปพลิเคชั่นที่รวมข้อมูลและเชื่อมต่อนักท่องเที่ยวกับการท่องเที่ยวผจญภัยในชนบทที่ไม่เหมือนใคร
ส่งเสริมประสบการณ์ การแลกเปลี่ยนเรียนุรู้ ดื่มด่ำในวัฒนธรรม อาหาร กิจกรรม
สัมผัสประเพณีพื้นถิ่น และการสำรวจมรดกทางประวัติศาสตร์
ขณะเดียวกันก็ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งยั่งยืนให้ชุมชนท้องถิ่น
|