Siri จัด 2 หมื่นกว่าล้านครองจ้าวตลาดห้องชุด

         บมจ.แสนสิริ วางแผนงานปี 2567 เตรียมเปิด 20 โครงการคอนโด มูลค่ารวม 2.6 หมื่นล้านบาท ตามแนวทาง “RESILIENT GROWTH” เน้นขยายในหัวเมืองใหญ่ โดยที่จะเห็นในปลายปีนี้อยู่ที่ภูเก็ตในชื่อ “แคนวาส เชิงทะเล” หรือแม้แต่แบรนด์ เวีย ที่พัฒนาบนถนนสุขุมวิทในย่าน CBD ส่วนไตรมาส 3 นี้ จะมีคอนโดแถวศูนย์วิจัยเพื่อคนรักสัตว์ ขณะที่แบรนด์ เดอะ เบส มีออกใหม่อีก 4 แห่ง มูลค่ารวม 5,700 ล้านบาท เช่นเดียวกับ แบรนด์ ดี คอนโด ที่สร้างเพิ่ม 4 โครงการ  



         นายองอาจ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) เปิดเผยว่า ในปี 2567 กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียมของแสนสิริ มุ่งเติบโตตามแนวทาง RESILIENT GROWTH - ยืนหยัด ยั่งยืน กับแผนการเปิดตัวคอนโดมิเนียม 20 โครงการ มูลค่ารวม 26,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการสร้างเรคคอร์ดสูงสุดในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย พร้อมวางเป้ายอดขายคอนโดที่ 21,000 ล้านบาท และยอดโอนคอนโดที่ 13,000 ล้านบาท 

         กลุ่มธุรกิจคอนโด มุ่งขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จภายใต้กลยุทธ์องค์กร โดยพาะอย่างยิ่งการพัฒนาโครงการใน Strategic Location หัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยว ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ทุกระดับราคา รองรับความต้องการของลูกค้า ปัจจุบันแสนสิริมีสัดส่วนโครงการคอนโดฯ เปิดใหม่ใน Strategic Location มากถึง 9 โครงการ มูลค่า 11,800 ล้านบาท โดยเน้นทำเลในหัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ รวมถึงโซนภาคตะวันออก ตั้งแต่ พัทยา บางแสน ไปถึงขอนแก่น รวมทั้งหัวหิน พร้อมชูไฮไลท์โครงการใหม่ แคนวาส เชิงทะเล (Canvas Cherng Talay) มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท ตั้งอยู่ในโซนเชิงทะเล-บางเทา จังหวัดภูเก็ต ที่กำลังเป็นทำเลยอดนิยมในกลุ่มชาวยุโรป ที่ส่วนใหญ่มาพักอาศัยแบบระยะยาว โดยเตรียมเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้



         การปักหมุดโครงการบนสุดยอดทำเลศักยภาพในย่าน CBD ที่มีความต้องการในทำเลสุขุมวิท ได้แก่ เวีย 34 (Via 34) มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท บนสุขุมวิท 34 และ เวีย 61 (เวีย 61) มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท บนสุขุมวิท 61 โดยทั้ง 2 โครงการ แสนสิริจะพัฒนาภายใต้แบรนด์เวีย (Via) ซึ่งเป็นแบรนด์คอนโดภายใต้ Aesthetic Collection ของแสนสิริ และอีกหนึ่งโครงการใหม่ จากซีรี่ส์ One of a Kind Project โครงการใหม่หนึ่งเดียว โดดเด่นบนทำเลศักยภาพบนสุขุมวิท 36 

         “เราให้ความสำคัญกับการบริหาร Portfolio เพื่อให้บริษัทฯ มีผลประกอบการที่โตอย่างต่อเนื่องและสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ ตลอดจนการรักษามาตรฐานความเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในตลาด รักษามาตรฐานด้านคุณภาพของสินค้าและการบริการ โดย 5 เดือนที่ผ่านมา แสนสิริสามารถสร้างยอดขายแล้วกว่า 7,300 ล้านบาท (คิดเป็น 35% ของเป้ายอดขาย) และมียอดโอน 3,400 ล้านบาท (คิดเป็น 26% ของเป้ายอดโอน) และในช่วงที่เหลือของปีนี้ เรายังคงทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องจากโครงการที่เปิดขายอยู่ และพร้อมโอนในปีนี้รวม 14 โครงการ มูลค่า 15,700 ล้านบาท” นายองอาจ กล่าว

         ทั้งนี้ แสนสิริพร้อมเปิดตัว 2 แคมเปญไฮไลท์ ได้แก่ Pets Welcome Condo แสนสิริลุยตลาดคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ รับกระแส Pet Parent หลังเล็งเห็นพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้า ที่หันมาเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในคอนโดมากขึ้น เพื่อรองรับพอร์ตคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ของแสนสิริ โดยเร็วๆ นี้ จะมีโครงการ พินน์ ศูนย์วิจัย (PYNN Soonvijai) ที่เตรียมเปิดตัวในไตรมาส 3 นี้ พร้อมเตรียม Pets Welcome Kits เพื่อดูแลสัตว์เลี้ยง เมื่อเข้ามาเยี่ยมชมโครงการคอนโดกับเจ้าของอีกด้วย 



         นอกจากนี้ บริษัทฯ เร่งต่อยอดแบรนด์คอนโดมิเนียมที่ประสบความสำเร็จ กับกลยุทธ์ Brand Refresh ปรับโฉมแบรนด์ เดอะ เบส  (THE BASE) ครั้งใหญ่ ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ควบคู่กับการพัฒนาโปรดักส์ให้เข้ากับการใช้ชีวิตของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละโลเคชั่น ตั้งแต่การขยายพื้นที่ด้วยแปลนหน้ากว้าง เพิ่มพื้นที่สีเขียวมากขึ้น ดีไซน์ห้องแบบลอฟท์ และครั้งแรกของแบรนด์เดอะ เบส ที่จะเป็น Pets Allowed ใน 2 ทำเลที่จะเปิดตัวในปีนี้ โดยจะมีโครงการ เดอะ เบส (THE BASE) รวม 4 โครงการ ได้แก่ เดอะ เบส ไรส์ ภูเก็ต (THE BASE Rise Phuket) ใกล้เซ็นทรัลภูเก็ต แค่ 2 นาที ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท และ อีก 2 โครงการใหม่บนทำเลรัชดา และวงศ์สว่าง รวมทั้งอีก 1 ทำเลใหม่ที่ขอนแก่น มูลค่าโครงการรวม 5,700 ล้านบาท 

  

         ขณะเดียวกันการเปิดตัว Affordable Condo อย่างต่อเนื่อง อย่างแบรนด์ ดีคอนโด เจาะทำเลใกล้มหาวิทยาลัย ใกล้แหล่งงานและมีความต้องการคอนโดสูง จะเตรียมเปิดตัวทั้งหมด 4 โครงการ มูลค่ารวม 3,900 ล้านบาท และจ่อคิวโอน 6 โครงการ มูลค่ารวม  6,500 ล้านบาท โดยเร็วๆ นี้ จะมีเปิดตัว ดีคอนโด เซนส์ (dcondo sense Bangsan) มูลค่า 880 ล้านบาท และ ดีคอนโด คลาม (dcondo calm) มูลค่า 820 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 2 นี้ และเปิดตัวคอนโดภายใต้แบรนด์คอนโดมี (condo me) และเวย์ (Vay) ในจุดเด่นด้านราคาที่จับต้องได้ในหลายทำเลรวม 3 โครงการ มูลค่า 1,110 ล้านบาท 

        อีกหนึ่งไฮไลท์ที่สำคัญคือการพัฒนา Super Luxury Condominiums ซึ่งนับเป็นจุดแข็งของแสนสิริ ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ที่มั่นใจในแบรนด์และประสบการณ์ที่เชี่ยวชาญ 40 ปี ล่าสุดได้สร้างสถิติใหม่อีกครั้ง หลังปิดการขายห้อง Penthouse พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว มูลค่าเกือบ 500 ล้านบาท ของโครงการแสนสิริในทำเลชิดลม แม้ยังไม่ได้เปิดตัว และยังมีอีก 2 โครงการใหม่ บนทำเลสารสินและสุขุมวิท 51 จ่อคิวสร้างความสำเร็จตามรอยโครงการในพอร์ต Sansiri Luxury Collection (SLC) และเตรียมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับธุรกิจอสังหาฯ ไทย

  

 
เว็บสำเร็จรูป
×