นักศึกษา คณะวิศวกรรมศาสตร์
ม.มหิดล สร้างชื่อเสียงอีกครั้ง ในเวที Invent For The Planet 2023 ที่สหรัฐฯ โดยคิดค้น “ระบบดิซาสเตอร์ลิ้งค์”
เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ติดซากปรักหักพังจากเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งนวัตกรรมนี้ได้ใช้ประโยชน์จาก
WiFi Module
ที่มีในโทรศัพท์ และใช้เพียง Primary Node
เชื่อมต่อกับ Secondary Node และ Subnode กระจายสัญญาณไปสู่ Web Application เพื่อแจ้งข้อความขอความช่วยเหลือจากภายนอก
แผ่นดินไหว
เป็นภัยธรรมชาติที่มนุษย์ไม่สามารถรู้ล่วงหน้าหรือพยากรณ์ได้และไม่เลือกเวลาเกิด
นำมาซึ่งความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินมหาศาล กลุ่มนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหิดล ได้คิดค้น “ระบบดิซาสเตอร์ลิ้งค์ (DisasterLink)” เพื่อใช้สื่อสารฉุกเฉินในพื้นที่หลังเกิดภัยพิบัติแผ่นดินไหว
(Emergency Infrastructure Communication that Restores Areas With No
Signal After Life-Threatening Disasters) แม้การสื่อสารหลักจะถูกตัดขาด
แต่ช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิต ให้กับผู้ประสบภัยสามารถติดต่อไปยังทีมกู้ภัย
หรือหน่วยงานเพื่อเข้าช่วยเหลือได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วผ่านระบบนี้
ในเรื่องนี้รศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์
คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ทีมนักศึกษาไทยจากวิศวะฯ
มหิดลได้เป็นตัวแทนประเทศไทยแข่งขันบนเวทีนานาชาติ นำเสนอไอเดียสิ่งประดิษฐ์กู้โลก
ในงาน Invent For The Planet 2023 ร่วมกับ 24 มหาวิทยาลัยชั้นนำ จาก 15 ประเทศ ณ เมืองเท็กซัส สหรัฐอเมริกา
ซึ่งมีความท้าทายคนรุ่นใหม่ในการคิดค้นนวัตกรรมที่ช่วยให้โลกปลอดภัย
มุ่งฝึกให้รู้จัก Engineering Design มีขั้นตอน เสาะหาข้อมูล
คิดวิเคราะห์ออกแบบ แก้ปัญหา
นายวิทวัส สุดทวี หัวหน้าทีมดิซาสเตอร์ริสค์ สปอต
นักศึกษาชั้นปี 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์
มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ที่มาของแนวคิดนวัตกรรม “ระบบดิซาสเตอร์ลิ้งค์
สื่อสารฉุกเฉินระหว่างเกิดภัยพิบัติแผ่นดินไหว (Disasterisk Spot Created
an Emergency Infrastructure Communication that Restores Areas With No Signal
After Life-Threatening Disasters) มาจากโศกนาฏกรรมแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นบ่อยทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย
ล่าสุดเมื่อต้นปี 2566
ที่ตุรกี-ซีเรียมีผู้เสียชีวิตกว่า 46,000 คน
และติดอยู่ในซากปรักหักพังจำนวนมาก ซึ่งจากการศึกษาข้อมูลภัยพิบัติแผ่นดินไหว
หลังจากเกิดแผ่นดินไหว 48 ชั่วโมงแรก
หากช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทัน
จะเป็นช่วงที่มีอัตราการรอดชีวิตของผู้ประสบภัยสูงสุด แต่เหตุแผ่นดินไหวในบางครั้งรุนแรง
และสร้างความเสียหายอย่างกว้างขวางผู้คนบาดเจ็บ สิ่งปลูกสร้างพังทลาย
กระทบถึงเสาสื่อสาร อาจเสียหายหรือชำรุด ส่งผลให้การสื่อสารถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
หรือหยุดชะงักและต้องใช้เวลานานในการซ่อมแซม
ทำให้ผู้ประสบภัยไม่สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้
รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดียก็จะไม่สามารถใช้งานได้ด้วยเช่นกัน
จึงต้องการคิดค้นระบบสื่อสารฉุกเฉินที่แก้ปัญหาให้การติดต่อไม่หยุดชะงัก
เพื่อเพิ่มอัตราผู้รอดชีวิต
“ระบบดิซาสเตอร์ลิ้งค์ (DisasterLink)” เป็นระบบที่สามารถใช้ติดต่อสื่อสารในช่วงหลังเกิดภัยพิบัติ
มีจุดเด่นและประโยชน์ คือ ต่อให้โครงสร้างสื่อสารถูกทำลาย
ผู้ประสบภัยก็ยังสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อย่างทันท่วงที
ส่วนประกอบของ “ระบบดิซาสเตอร์ลิ้งค์ ประกอบด้วย 1. Primary Node หรือ คอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์หลักที่ใช้ในการรับข้อมูลต่างๆ
โดยจะใช้เชื่อมต่อกับ Secondary Node 2. Subnode คือ
ตัวขยายสัญญาณ WiFi ที่เซิร์ฟเวอร์หลักแชร์ให้สามารถกระจายการเชื่อมต่อสู่
Web Application 3. เว็บไซต์สำหรับใส่ข้อมูล
โดยภายในเว็บไซต์ จะมี 2 ปุ่ม คือ ปุ่ม Emergency
Button ใช้เพื่อจับสัญญาณ GPS ล่าสุด
ก่อนเครือข่ายจะล่ม และ ปุ่ม Rescue Team Room สามารถใช้ติดต่อ
พิมพ์ข้อความ รายละเอียดต่างๆ กับศูนย์ช่วยเหลือได้
ด้านนายศิรประกฤษฎิ์ ลิ้มตระกูลธงชัย
ตัวแทนจากทีมดิซาสเตอร์ริสค์ สปอต นักศึกษาชั้นปี 4 ภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า
ผู้ประสบภัยไม่จำเป็นต้องมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตก็สามารถใช้งานได้
เนื่องจากระบบดิซาสเตอร์ลิ้งค์ ที่สร้างขึ้นนี้
เป็นระบบการสื่อสารที่ไม่ได้พึ่งพาระบบโครงสร้างพื้นฐานของการสื่อสารแบบทั่วไป
แม้จะไม่สามารถใช้งานการสื่อสารในส่วนของ Data เช่น 3G,
4G หรือ 5G ได้ แต่ได้นำประโยชน์จากความสามารถของโทรศัพท์ทุกเครื่องที่มี
WiFi Module มาใช้งาน และนำมาพัฒนาต่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับวิธีการใช้งาน
เพียงแค่ผู้ประสบภัยมีโทรศัพท์มือถือ ทำการเปิดหน้าเบราว์เซอร์ขึ้นมา
จะพบกับเว็บไซต์ที่สร้างขึ้น แสดงขึ้นมายังหน้าจอทันที
โดยผู้ประสบภัยสามารถใช้งานได้ง่าย สามารถกรอกข้อมูลที่สำคัญ
พิมพ์รายละเอียดในลักษณะข้อความได้เลย ไม่ว่าจะเป็น ตำแหน่งปัจจุบัน พิกัด สถานที่
จำนวนผู้ประสบภัยในพื้นที่ หรือข้อมูลทางการแพทย์ อย่างโรคประจำตัว
โดยระบุให้ครบถ้วนเพื่อรวดเร็วและแม่นยำต่อการช่วยเหลือ จากนั้นกดส่งข้อมูล
เพียงเท่านี้ข้อมูลที่กรอกนั้นจะถูกส่งมายังเซิร์ฟเวอร์ของระบบในศูนย์การปฏิบัติการการช่วยเหลือ
ทางทีมหน่วยกู้ภัยจะเตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ ในการเข้าช่วยเหลือได้ถูกต้อง
ผลการทดสอบพบว่า ในปัจจุบัน สามารถพัฒนาต้นแบบ (Prototype) และสร้างเครือข่าย
(Network) แบบ Mesh Topology ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อกันทุกอุปกรณ์เข้าด้วยกัน
ใช้สำหรับให้ผู้ประสบภัยเชื่อมต่อและสื่อสารกันได้ เรียบร้อยแล้ว
และทดลองใช้โทรศัพท์มือถือของผู้ประสบภัยเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่าย Hotspot
ที่ตัวระบบดิซาสเตอร์ลิ้งค์ปล่อยออกมา จากการทดสอบสามารถใช้งานได้
สามารถส่งข้อความ ระบุพิกัดตำแหน่งปัจจุบันจากโมดูล GPS ไปยังเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้
ทั้งนี้
ในการแข่งขันดังกล่าว มหาวิทยาลัยจากแต่ละประเทศ จะได้รับโจทย์ของภาคอุตสาหกรรม
ซึ่งมุ่งฝึกคนรุ่นใหม่ให้รู้จัก Engineering Design อย่างมีขั้นตอน
เสาะหาข้อมูล คิดวิเคราะห์ออกแบบ แก้ปัญหา โดยสมาชิกทีมไทย 6 คนรุ่นใหม่
เป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล จากภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์
และภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า ประกอบด้วย นายวิทวัส สุดทวี นายกรวิชญ์ สุวรรณ นายศิรประกฤษฎิ์
ลิ้มตระกูลธงชัย นายพินิจ ไมตรีสกุลคีรี นายภานุวัฒน์ เรืองเบญจสกุล นายวีรพันธุ์
วีรวัฒน์ไกวัล โดยมี รศ. ดร.อิทธิพงษ์ ลีวงศ์วัฒน์ และ อ. ดร.สมนิดา ภัทรนันท์
เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
|