ผู้ว่าการ การรถไฟฯ เช็คความพร้อมทั้งในเรื่องค่าฝุ่น PM 2.5 ความดังของเสียง ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐาน และเตรียมเปิดให้บริการเส้นทางขบวนเดินรถไฟทางไกล
วันที่ 23 ธ.ค.64 ที่สถานีกลางบางซื่อ รวมทั้งยังได้เพิ่มขบวนรถเชิงพาณิชย์
รถเชิงสังคม อีกจำนวน 22 ขบวน มารองรับผู้โดยสาร
ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พร้อมคณะฯ
ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมเพื่อรองรับการเปิดเดินรถขบวนรถไฟทางไกล
ที่จุดจอดรถบนชานชาลาชั้น 2 สถานีกลางบางซื่อ โดยมีการตรวจความพร้อมในขบวนรถ
ห้องควบคุมรถไฟทางไกล ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการเตรียมทาง ประแจ
และระบบอาณัติสัญญาณภายในย่านการปล่อยรถ รวมถึงทดลองโดยสารขบวนรถไฟทางไกลจากสถานีกลางบางซื่อ-รังสิต
และทดสอบการวัดคุณภาพอากาศ ความร้อนและเสียง
นอกจากนี้
การรถไฟฯ ยังได้มีการการตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ปล่อยจากขบวนรถไฟทางไกล การตรวจระดับความดังของเสียง
ตรวจวัดความร้อนของอากาศ โดยผลการทดสอบพบว่าอยู่ในค่ามาตรฐานทั้งหมด
ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม รวมถึงประชาชนผู้ใช้บริการ ซึ่งในขั้นตอนตรวจวัดค่าฝุ่นละออง
PM 2.5 บริเวณข้างขบวนรถไฟ
โดยเว้นระยะห่างตรวจวัดจากข้างรถไฟประมาณ 2 เมตร ขณะที่ขบวนรถไฟจอดรอเวลาออก
และจอดรอรถสับเปลี่ยนมาต่อเพื่อลากลงไปที่ โรงซ่อมบำรุงรถไฟทางไกลพบว่ามีค่าฝุ่นละอองอยู่ในเกณฑ์วัดดัชนีคุณภาพอากาศ
โดยมีค่าความเข้มข้นของสารมลพิษทางอากาศเทียบเท่าค่าดัชนีคุณภาพอากาศเฉลี่ยอยู่ที่
0-50 AQI ตามมาตรฐานกรมควบคุมมลพิษ
ส่วนการตรวจระดับความดังของเสียง
บริเวณชานชาลาที่ 1 ก่อนขบวนรถเทียบ มีค่าระดับของเสียงอยู่ที่ 80-90 เดซิเบล
ซึ่งเป็นระดับเสียงที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้โดยสาร และอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษ
ขณะที่การตรวจวัดความร้อนของอากาศโดยรอบมีค่าเฉลี่ยไม่เกิน 35 องศาเซลเซียส
ซึ่งมีการติดตั้งระบบระบายอากาศภายในไว้ ทำให้อุณหภูมิอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานปกติเช่นเดียวกัน
ดังนั้น
จากการลงตรวจความพร้อมเพื่อรองรับการเปิดเดินรถขบวนรถไฟทางไกล สถานีกลางบางซื่อ
พบว่ามีความเรียบร้อยเป็นอย่างดี และพร้อมเปิดให้บริการตามกำหนดในวันที่ 23
ธันวาคม 2564
เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการเดินทางด้วยระบบรางของประเทศที่ดีและทันสมัยที่สุดในภูมิภาค
ตลอดจนเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งของประเทศไทยต่อไป
นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังได้ปรับการเดินขบวนรถให้สอดคล้องกับสภาพการเดินทางและรองรับนโยบายการเปิดประเทศของรัฐบาล
โดยเพิ่มการให้บริการขบวนรถเชิงพาณิชย์ และขบวนรถเชิงสังคมอีกจำนวน 22 ขบวน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป โดยมีขบวนรถที่ให้บริการในเส้นทางต่าง ๆ ดังนี้
ขบวนรถเชิงพาณิชย์
สายตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 2 ขบวน เปิดเดิน วันที่ 9/10 ธันวาคม 2564 - ขบวนรถด่วนพิเศษที่
25/26 กรุงเทพ - หนองคาย - กรุงเทพ
สายใต้ จำนวน 6 ขบวน เปิดเดิน วันที่ 4 ธันวาคม 2564
- ขบวนรถนำเที่ยวที่ 909/910 กรุงเทพ - น้ำตก – กรุงเทพ
- ขบวนรถนำเที่ยวที่
911/912 กรุงเทพ - สวนสนประดิพัทธ์ – กรุงเทพ เปิดเดิน วันที่ 9 ธันวาคม 2564 - ขบวนรถด่วนพิเศษที่
39/44 กรุงเทพ - สุราษฎร์ธานี - กรุงเทพ
ขบวนรถเชิงสังคม
เปิดเดิน วันที่ 1 ธันวาคม 2564
สายใต้ จำนวน 2 ขบวน - ขบวนรถธรรมดาที่
259/260 ธนบุรี - น้ำตก – ธนบุรี
สายมหาชัย – วงเวียนใหญ่ จำนวน 12 ขบวน - ขบวนรถธรรมดาที่ 4302/4303 มหาชัย –
วงเวียนใหญ่ - มหาชัย
- ขบวนรถธรรมดาที่ 4312/4313 มหาชัย –
วงเวียนใหญ่ - มหาชัย
- ขบวนรถธรรมดาที่
4316/4317 มหาชัย – วงเวียนใหญ่ - มหาชัย
- ขบวนรถธรรมดาที่
4324/4325 มหาชัย – วงเวียนใหญ่ - มหาชัย
- ขบวนรถธรรมดาที่
4342/4343 มหาชัย – วงเวียนใหญ่ - มหาชัย
- ขบวนรถธรรมดาที่
4346/4347 มหาชัย – วงเวียนใหญ่ - มหาชัย
|