บริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) (SOLAR) ประเมินว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2566 จะเติบโตดีกว่าปีก่อน เนื่องจากบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังได้รับงานโครงการใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และในส่วนของโรงงานผลิตแผงโซลาร์เซลล์ได้มีการปรับปรุงและพัฒนา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รองรับคำสั่งซื้อที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันบริษัทฯดำเนินการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนอาคารในรูปแบบ Private PPA (Private Power Purchase Agreement) ให้กับลูกค้า เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มีสัญญากำลังการผลิตติดตั้ง 21 เมกะวัตต์ ซึ่งจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว 9 เมกะวัตต์ บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (Cal-Comp) มีสัญญากำลังการผลิตติดตั้ง 4.9 - 5 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถเริ่มขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในเดือนก.พ. 2567

นอกจากนี้ ยังมีโครงการโซลาร์ฟาร์ม ในจังหวัดอ่างทอง และประจวบคีรีขันธ์ กำลังการผลิตรวม 9 เมกะวัตต์ ซึ่งช่วยสร้างรายได้ประจำให้กับบริษัทฯสนับสนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต  ขณะเดียวกันยังเตรียมขยายไปยังธุรกิจพลังงานอื่นๆ เช่น พลังงานน้ำ พลังงานลม เป็นต้น คาดว่าในช่วงต้นปี 2567 จะเริ่มเห็นความชัดเจนมากขึ้น

นายสิทธิชัย กฤชวิวรรธน์ ซีอีโอ SOLAR บอกว่า ในส่วนธุรกิจ EPC ซึ่งเป็นธุรกิจที่ให้บริการติดตั้งโซลาร์เซลล์ มีแนวโน้มเติบโตในทิศทางที่ดี จากการคว้างานขนาดใหญ่ของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจเพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีการให้บริการในรูปแบบ EPC ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วมากกว่า 250 เมกะวัตต์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุนกับพันธมิตรต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ EPC เพื่อเพิ่มโอกาสในการคว้างานใหม่ได้มากขึ้น โดยอยู่ระหว่างรอลงนามในสัญญางานขนาดใหญ่ของรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีมูลค่าโครงการประมาณ 900 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถลงนามสัญญาว่าจ้างได้ภายในปีนี้

บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นสร้างการเติบโตทั้งในแง่ของรายได้และกำไร โดยในปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 15-20% และมั่นใจว่าในปี 2567 จะกลับมาเทิร์นอะราวด์ตามแผนงานที่วางไว้