ภาพรวมแผนธุรกิจปี
2568 บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน)
(PCE) วางแผนใช้เทคโนโลยีเพื่อขยายกำลังการผลิต
ควบคู่กับการเพิ่มมูลค่าสินค้าในธุรกิจการสกัดและการกลั่นน้ำมันปาล์ม
ตลอดจนการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนขยายเป็น Bio Complex เช่น ลดของเสียและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการบริหารจัดการน้ำเสีย
รวมถึงการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
รวมถึงให้ความสำคัญด้านการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดน้ำมันปาล์มและอื่นๆ
ด้วยการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ปาล์มที่บริษัทฯ มีอยู่ เช่น
น้ำมันเมล็ดในปาล์ม (CPKO) และน้ำมันเมล็ดในปาล์มกึ่งบริสุทธิ์
(RBDPKO) โดยสัดส่วนการเพิ่มยอดการจัดจำหน่ายเป็น 40,000 ตันจากเดิม 15,000 ตัน
อีกทั้งยังวางแผนการส่งออกกะลาปาล์มให้มากกว่า 100,000
ตันต่อปี
บริษัทฯ
วางแผนขยายกำลังการผลิตน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) จาก 90 ตัน/ชม. เป็น 135
ตัน/ชม. ขยายกำลังการผลิตด้วยการกลั่นน้ำมันปาล์มโอเลอีน (RBDOL) จาก 300 ตัน/วัน เป็น 700
ตัน/วัน ตลอดจนเน้นผลิตและจำหน่ายน้ำมันเมล็ดในปาล์ม (CPKO) และมีแผนลงทุนด้านโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม
เพื่อให้การสกัดน้ำมันปาล์มมีประสิทธิภาพสูงสุด
รวมถึงการเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าและบริการทางออนไลน์ให้มากยิ่งขึ้น
เพื่อตอบสนองอัตราการอุปโภคบริโภคน้ำมันปาล์มที่เพิ่มมากขึ้นกว่าปีก่อน 3%
(ข้อมูลจากกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์) คาดว่าจะสนับสนุนรายได้ปี 2568 ให้เติบโตขึ้นสู่ระดับ 30,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น
15-20% จากปีก่อน
ปี 2568 มีแนวโน้มว่า การส่งออกน้ำมันปาล์มไปจีน
และอินเดียยังคงเป็นไปในทิศทางที่ดี โดย PCE จะขยายกำลังการผลิต
เน้นเพิ่มมูลค่าสินค้า เพิ่มช่องทางจัดจำหน่าย
เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่มีมากขึ้น
ให้ความสำคัญกับการพัฒนากลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน
และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้ รวมทั้งให้ความสำคัญในด้าน
ESG ซึ่งมีโครงการส่งเสริมการนำน้ำมันพืชใช้แล้วนำกลับมาใช้ใหม่
และโครงการรวมพลังสร้างปาล์มน้ำมันไทย ก้าวไกลสู่มาตรฐาน RSPO (Roundtable
on Sustainable Palm Oil) ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืนที่ปัจจุบันได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติมากที่สุด
โดยเป็นการร่วมลงนาม MOU กับหน่วยงานภาครัฐ