TPL

  

บริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) (TPL) จะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ในช่วงไตรมาส 2-3 ปีนี้ หลังจากที่ปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนของ TPL เป็นที่เรียบร้อย โดยได้ยื่นเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน120 ล้านหุ้นมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็น 22.90% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท

วัตถุประสงค์ของ TPL ในการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อใช้ในการจัดหาที่ดินและก่อสร้างศูนย์คัดแยกและกระจายสินค้าประจำภูมิภาค รวมถึงศูนย์กระจายสินค้าในเขตกรุงเทพ การซื้อยานพาหนะที่เป็นรถขนส่งแบบ EV การสร้างสถานีชาร์จไฟและอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงการลงทุนในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพสนับสนุนการเติบโตในอนาคตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

นายภัทรลาภ ทวีวงศ์ ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการเข้าจดทะเบียนใน MAI ในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการรุกขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนโครงการในอนาคต และการระดมทุนในครั้งนี้ ยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการต่อยอดความสำเร็จของบริษัทอีกด้วย 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา บริษัทก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อการบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างสูงสุด ทำให้บริษัทสามารถรักษาฐานลูกค้าเดิม และสามารถเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามาใช้บริการขนส่งสินค้าได้มากขึ้น ดังนั้นจึงมองหาโอกาสที่จะขยายขีดความสามารถในส่วนของศูนย์คัดแยกและกระจายสินค้า รถขนส่ง และระบบการจัดการงานขนส่ง เพื่อให้สามารถรองรับจำนวนลูกค้าที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการให้สามารถบริการลูกค้าได้อย่างครบวงจรมากขึ้น

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2565 TPL มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 21.11 ล้านบาท ขณะที่ในงวดไตรมาส 1/2566 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 2.41 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18.90%จากงวดเดียวกันปีก่อนเท่ากับ 18.04% และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 0.53 เท่า

ปัจจัยที่สนับสนุนให้งวดไตรมาส 1/2566 มีกำไรสูงขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน เป็นผลจากการที่บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น ทั้งด้านการเติบโตของรายได้ในทุกกลุ่มลูกค้าและการควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้นโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร รวมถึงรายได้จากการจำหน่ายยานพาหนะเก่าที่ปลดระวาง ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิและอัตรากำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน   






เว็บสำเร็จรูป
×