PSP


ผลการดำเนินงาน บริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) (PSP) ในไตรมาส 4/2567 คาดว่าจะเติบโตได้ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และดีกว่าไตรมาส 3/2567 เนื่องจากมีปริมาณการขายทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น หลังจากมีการขยายตลาดการส่งออกไปยังประเทศใหม่ๆ และลูกค้าปัจจุบันมีการเพิ่มปริมาณการคำสั่งซื้อทั้งน้ำมันหล่อลื่น จาระบี น้ำมันผสมยาง และน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้ามากขึ้น

นอกจากนี้ PSP ยังได้รับปัจจัยบวกจากตลาดโดยรวมของผลิตภัณฑ์หล่อลื่นที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยจากการคาดการณ์ของ Kline ASEAN Market Research ตลาดผลิตภัณฑ์หล่อลื่นในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 2.8% ต่อปี ซึ่งในส่วนของประเทศไทยคาดว่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 1.7% ต่อปี และการเติบโตของความต้องการใช้น้ำมันหล่อลื่นในกลุ่มอุตสาหกรรมและยานยนต์คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ราว 2.7% ต่อปี รวมถึงการใช้น้ำมันหล่อลื่นในกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น จาระบี น้ำมันผสมยาง และน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 1.2% 2.8% และ 1.0% ตามลำดับ

ขณะเดียวกัน PSP ได้ลงทุนใน บริษัท รีไซเคิล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด โดยปัจจุบันถือหุ้น 27.78% การเข้าลงทุนในครั้งนี้เพื่อการขยายสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (Sustainable Solutions) โดยเฉพาะธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัท รีไซเคิล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด มีศักยภาพในการขยายธุรกิจและเพิ่มฐานลูกค้า รวมถึงพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีส่วนช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ซึ่งในไตรมาส 3/2567 รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัท รีไซเคิลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด จำนวน 4.71 ล้านบาท

ดังนั้น แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง หลังได้รับคำสั่งซื้อทั้งในและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ และการเข้าลงทุนในบริษัท รีไซเคิล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างการเติบโตของรายได้ในอนาคต หนุนรายได้ปี 2567 เติบโต 10-15% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ ตามเป้าหมายที่วางไว้

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 10,276.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.79% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 9,192.80 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น  หลังปริมาณการขายและราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น และมีกำไรสุทธิ 498.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 324.7 ล้านบาท และสูงกว่าทั้งปี 2566 มีกำไรสุทธิ 427.54 ล้านบาท


วันที่ 12 ธันวาคม 2567





















































































 
เว็บสำเร็จรูป
×