แผนการดำเนินงานในปี 2567 บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) (PRM) ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% จากปีก่อน โดยบริษัทมุ่งเน้นการขยายธุรกิจในกลุ่มเรือขนส่งน้ำมันและปิโตรเคมีเหลว ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ และเรือให้การสนับสนุนงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกลางทะเล รองรับความต้องการที่สูงขึ้น สอดรับกับการขยายกำลังการผลิตของโรงกลั่นในภูมิภาคและราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น กระตุ้นดีมานด์การสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกลางอ่าวไทย ประกอบกับเหตุตึงเครียดในทะเลแดงที่ทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลให้ผู้ใช้บริการเรือขนส่งเร่งมองหาการขนส่งสินค้าแบบกำหนดระยะเวลาหนึ่ง หรือ Time Charter เพื่อป้องกันความเสี่ยงและความผันผวนของค่าระวางเรือในระยะยาว ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธุรกิจสามารถเพิ่มสัดส่วนสัญญา Time Charter และสร้างรายได้อย่างมั่นคงในระยะยาวเช่นกัน
สำหรับแผนขยายกองเรือ ในปี 2567 บริษัทฯ มีแผนขยายกองเรือเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น และทดแทนเรือลำเดิมที่มีอายุใกล้ปลดระวาง โดยข้อมูล ณ สิ้นปี 2566 บริษัทมีจำนวนเรือให้บริการทั้งสิ้น 62 ลำ ส่วนธุรกิจบริหารจัดการเรือ มีจำนวนเรือให้บริการนอกกลุ่ม 3 ลำ
ล่าสุด PRM ได้รับมอบเรือ "Crew Boat ระบบไฮบริด พลัส กรีน เทคโนโลยี" จำนวน 2 ลำ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ ลดปัญหาโลกร้อน และรองรับความต้องการใช้เรือของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการขับเคลื่อนองค์กรสู่ Net Zero เช่นกัน ทั้งนี้เรือ 2 ลำดังกล่าวถือเป็นเรือ Crew Boat กลุ่มแรก ที่ได้นำ “กรีน เทคโนโลยี” มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ
ธุรกิจพลังงานปัจจุบัน แม้จะมีการปรับตัวเพื่อรับยุคของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่มุ่งลดการใช้น้ำมัน แต่การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงภายในประเทศยังคงเพิ่มขึ้น 2-3% ทุกปีรวมถึงปริมาณอุปทานของปิโตรเคมีที่ยังคงเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการขยายกำลังการผลิตของโรงกลั่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้น บริษัทฯ จึงยังมุ่งมั่นที่จะหาโอกาสในการขยายจำนวนเรือเพิ่ม ทั้งเรือขนส่งปิโตรเคมีเหลว เรือขนส่งในธุรกิจขนส่งระหว่างประเทศ เรือในธุรกิจ Offshore Support และเรือ FSU เพื่อสร้างการเติบโตให้กับทุกธุรกิจ โดยวางงบประมาณลงทุนรวมมากกว่า 3 พันล้านบาท เพื่อรองรับการขยายจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้น