บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) (FPI) มีผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66 ด้วยรายได้รวม 658.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.1 ล้านบาท หรือ 0.8% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 653.1 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายในทวีปอเมริกาใต้ และอาฟริกาที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประเทศแอลจีเรียได้อนุญาตให้นำเข้าสินค้าได้ และยอดขายที่สูงมากจากบริษัทลูกที่อินเดีย 123 ล้านรูปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 89% ในขณะที่ยอดขายลดลงในทวีปอื่น

ขณะที่ต้นทุนขายและบริการ ในไตรมาส 2/66 บริษัทฯ มีต้นทุนขายและบริการ 440 ล้านบาท ลดลง 14 ล้านบาท  ลดลง 2.6% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบหลักของบริษัท (เม็ดพลาสติก) มีการจัดซื้อ เป็นเงินบาททำให้ราคาวัตถุดิบหลักไม่ได้เพิ่มขึ้นตามอัตราแลกเปลี่ยน ชดเชยกับค่าไฟที่สูงขึ้น และบริษัทลูกที่ดินเดียได้ต่อรองราคาวัตถุดิบต่ำลง เนื่องจากปริมาณการผลิตที่สูงขึ้น

ในไตรมาส 2/66 งบการเงินรวมของบริษัทฯมีกำไรสุทธิ 102.9 ล้านบาท เปรียบเทียบจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 101.8 ล้านบาท  สาเหตุหลักมาจากการเติบโตทางธุรกิจของบริษัทฯ การควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้น และบริษัทลูกที่อินเดียกำไรเป็นไตรมาสแรกในรอบ 4 ปี ชดเชยกับการขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรมของตราสารอนุพันธ์

ทั้งนี้ บริษัทลูกที่อินเดีย ไตรมาส 2/66 ยอดขายอยู่ที่ 123 ล้านรูปี เพิ่มขึ้น 58 ล้านรูปี หรือ 89% จากรายได้ที่เติบโต โดยเฉพาะลูกค้ารายหลักมารูติซูซูกิ และการต่อรองราคาวัตถุดิบจากปริมาณที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีผลกำไร 5.9 ล้านบาท เป็นไตรมาสแรกในรอบ 4 ปี โดยรายได้เมื่อเริ่มผลิตครบทุกโรงงานจะอยู่ที่ 400-500 ล้านรูปี