บริษัท ฮั้วฟงรับเบอร์ (ไทยแลนด์)
จำกัด (มหาชน) (HFT) เผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานงวดไตรมาส
2/2568 คาดว่าจะสามารถเติบโตได้ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าจะเผชิญกับช่วงสภาวะเศรษฐกิจและการส่งออกที่ชะลอตัว
แต่บริษัทฯ ยังคงได้รับคำสั่งซื้อจากกลุ่มลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ
โดยปัจจุบัน HFT มีออเดอร์ถึงไตรมาส 3/2568
แล้ว สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของฐานลูกค้าและความเชื่อมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์
อีกทั้งยังมีการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยบริษัทฯ
ได้ดำเนินการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปและเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบตั้งแต่เดือนมกราคม
2568 ที่ผ่านมา ช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าและสนับสนุนเป้าหมายด้านความยั่งยืนขององค์กร
สำหรับช่วงครึ่งหลังของปี 2568
บริษัทฯ อยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์การแข่งขันในตลาดฟิลิปปินส์อย่างใกล้ชิด
โดยเฉพาะจากผู้ผลิตรายใหม่จากประเทศจีนที่เริ่มเข้ามารุกตลาดในภูมิภาค
ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อส่วนแบ่งทางการตลาดและระดับราคาขายสินค้าในอนาคต อย่างไรก็ตาม HFT มั่นใจว่าด้วยจุดแข็งด้านคุณภาพสินค้าและความเชี่ยวชาญในการผลิตยางรถจักรยานยนต์ที่สามารถตอบโจทย์
ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม
จะช่วยสร้างความแตกต่างและรักษาความเชื่อมั่นจากลูกค้าได้เป็นอย่างดี
จึงสามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ได้
ประเมินว่าสถานการณ์ดังกล่าวยังไม่น่าจะส่งผลกระทบยอดขายอย่างมีนัยสำคัญ และยังคงตั้งเป้าหมายรายได้ปี
2568 จะเติบโต 5–10%
ดังนั้นแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจและตัวเลขการส่งออกโดยรวมจะชะลอตัวลงในช่วงที่ผ่านมา
แต่สถานการณ์ดังกล่าวยังไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ
เนื่องจากกลุ่มลูกค้าส่งออกส่วนใหญ่เป็นลูกค้าในลักษณะ OEM ซึ่งมักมีการกำหนดสเปกสินค้าไว้ล่วงหน้าแล้ว
ส่งผลให้คำสั่งซื้อยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในเบื้องต้นบริษัทฯ
ได้มีการหารือร่วมกับลูกค้าเพื่อหาแนวทางรับมือสำหรับสถานการณ์ดังกล่าว
และจนถึงขณะนี้ยังไม่พบสัญญาณผลกระทบในเชิงลบจากลูกค้าแต่อย่างใด
สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2568 (สิ้นสุด 31 มี.ค. 2568) บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขาย 708.10 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.98% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 687.60 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทฯ มียอดขายเพิ่มขึ้นจากกำลังซื้อยางนอก-ยางในรถจักรยานกลุ่มลูกค้ายุโรปเพิ่มขึ้น
วันที่ 24 มิถุนายน 2568