QTC บุกไทย-ตปท.ปิดจ๊อบหม้อแปลงเพิ่ม
         
         บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ เปิดตลาดหม้อแปลงในต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะโซนยุโรปที่มีนโยบายการลดคาร์บอนฟุตพริ้น ส่วนงานใหม่คาดว่าจะให้ได้ไม่ต่ำกว่า 15% ของงานภาครัฐที่เตรียมเปิดประมูลอีกกว่า 3 พันล้านบาท นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจด้านโซลาร์เซลล์ และยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้แผนงานเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้



        นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (QTC) เปิดเผยว่า แผนกลยุทธ์ทางธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2567 บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ที่มีการจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าอยู่แล้ว โดยเฉพาะในประเทศเยอรมัน สเปน และเดนมาร์ก เนื่องจากกลุ่มประเทศดังกล่าวให้ความสำคัญกับนโยบายการลด Carbon Footprint ซึ่งหม้อแปลงไฟฟ้าของ QTC สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า

         ขณะที่ตลาดในประเทศ บริษัทฯ เตรียมประมูลงานของภาครัฐมูลค่าโครงการ 1,000-3,000 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 3/2567 โดยคาดว่าจะคว้างานได้ไม่ต่ำกว่า 15% ของมูลค่าโครงการ นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมประมูลงานหม้อแปลงไฟฟ้าในส่วนของภาคอุตสาหกรรม และด้านพลังงานทดแทน คาดว่าจะคว้างานประมูลงานในกลุ่มดังกล่าว 30-50% ของมูลค่างานรวม 400-500 ล้านบาท พร้อมกันนี้ได้จัดตั้ง บริษัท คิวทีซี อาร์อี จำกัด (QTC RE) เพื่อดำเนินธุรกิจตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากโซลาร์เซลล์ พร้อมอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องต่างๆ และ บริษัท คิวทีซี อีวี จำกัด (QTC EV) เพื่อดำเนินธุรกิจพลังงานเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า โดยทั้ง 2 บริษัทที่จัดตั้งใหม่จะช่วยสร้างโอกาสให้ยอดขายเพิ่มขึ้นในอนาคต

   

         นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนเข้าประมูลงานสร้างโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม ขนาดกำลังผลิตติดตั้ง และเสนอขาย 16 เมกะวัตต์ ภายในไตรมาส 3/2567 นี้ ซึ่งเป็นโครงการส่วนขยายจากโรงไฟฟ้าโซลาร์ ของบริษัท คิว โซลาร์ 1 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ QTC ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลบ่อทอง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี สอดรับกับนโยบายการให้ความสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ภายใต้มาตรฐานคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2050 และยังช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน การลงทุนให้เป็นไปตามทิศทางของโลก ตลอดจนการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้เพื่อการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลประกอบการในระยะยาว

        ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ มีการพัฒนาและวิจัยคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าในทุกๆ รูปแบบอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 มีรายได้รวม 265 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากงวดเดียวกันกับปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 10 ล้านบาท จากธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า และธุรกิจเทรดดิ้ง 

        ปัจจัยสนับสนุนที่ช่วยผลักดันรายได้รวมให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น มาจากแรงขับเคลื่อนการปรับกลยุทธ์ด้านตลาดแบบเชิงรุก ในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจพลังงานที่มีความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยเฉลี่ย 30-50% ซึ่งเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรมหม้อแปลงไฟฟ้าที่โตเฉลี่ย 10-15% ส่งผลให้บริษัทฯ เดินเกมรุกเจาะตลาดในกลุ่มอุตสาหกรรมด้านพลังงานในช่วงที่ผ่านมามากขึ้น โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 มีงานในมือที่รอส่งมอบในปี 2567 ที่ 440 ล้านบาท 

 
เว็บสำเร็จรูป
×