“CODING” ตัวสร้างภูมิคุ้มกันเด็กไทย

         ดร.วิษณุ ปลื้มกับผลงานด้านการพัฒนาการศึกษาของ ดร.คุณหญิงกัลยา รมช.ศึกษาธิการ ที่ได้ทุ่มเทการทำงาน จนเป็นรูปธรรม เช่น นโยบาย CODING ที่กลายเป็นวาระแห่งชาติ สร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กไทย และได้เรียนวิทยาศาสตร์ นวัตกรรมอย่างทั่วถึง ขณะที่ครูกัลยา สะท้อนว่า เป็นภารกิจสำคัญ ซึ่ง CODING จะสามารถปรับใช้ได้กับคนทุกวัย รวมถึงโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีต ที่ทำสำเร็จภายใน 6 เดือน 



        ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานเปิดงาน “สร้างภูมิคุ้มกัน ด้วยวิทยาศาสตร์และ CODING” พร้อมด้วยดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้บริหารหน่วยงานในกำกับ กระทรวงศึกษาธิการ ณ ลานกิจกรรม ชั้น G Avenue Zone A (ใต้ลาน Skywalk) MBK Center) 

         ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนในฐานะกำกับดูแลกระทรวงศึกษาธิการ ได้ติดตามการทำงานของ ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ มาโดยตลอดตั้งแต่ปีแรกที่คุณหญิงกัลยารับตำแหน่งจนถึงวันนี้ ได้เห็นถึงความตั้งใจและความมุ่งมั่นในการทำงานขับเคลื่อนนโยบายสำคัญด้านการศึกษาต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วง จนมีผลงานปรากฏเด่นชัดอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะนโยบาย CODING ที่คุณหญิงกัลยาเป็นผู้นำให้เป็นนโยบายของรัฐบาล ผลักดันให้ CODING เป็นวาระแห่งชาติ จนประสบความสำเร็จ ถือเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กไทยและคนไทยทุกคนให้สามารถเผชิญหน้าและอยู่กับโลกในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

  

        นอกจากนโยบาย CODING ดร.คุณหญิงกัลยา ยังขับเคลื่อนนโยบายและโครงการอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปการศึกษาอีกมากมาย อาทิ การพลิกโฉมอาชีวะเกษตร ด้วยโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ซึ่งขับเคลื่อนผ่านวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี (วษท.) จนเกิดหลักสูตร “ชลกร” นโยบายการศึกษาพิเศษ โครงการวิทยาศาสตร์พลังสิบ โครงการ “คนละเครื่อง พี่แบ่งให้…น้องได้เรียน” เพื่อแบ่งปัน Smart Device สร้างการศึกษาไทยให้เท่าเทียม นโยบายการอ่าน เขียน เรียนประวัติศาสตร์ผ่านการสื่อสารร่วมสมัย รวมไปถึงการปรับหลักสูตรการเรียนรู้ รูปแบบการเรียนการสอน และวัดผล และการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อให้การศึกษาเป็นไปตามรูปแบบที่เหมาะต่อสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งเยาวชนไทยจะได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียมและมีประสิทธิภาพสูงสุด เป็นต้น             

        ดร.วิษณุ กล่าวว่า 4 ปีของดร.คุณหญิงกัลยา ที่เข้ามาทำงานด้านการศึกษานั้น ประเทศไทยได้ประโยชน์จากการที่ได้คุณหญิงกัลยามาช่วยขับเคลื่อนงานการศึกษา และอยากเอาสิ่งที่คุณหญิงทำทั้งหมดนี้ไปให้รัฐมนตรีคนอื่นเขาได้เห็น ให้ท่านนายกรัฐมนตรีได้ดู ให้ครูบาอาจารย์ทั่วประเทศได้รับรู้ ว่ามีว่ามีเด็กที่ห่างไกลความเจริญ เช่น อมก๋อย เขาได้ทดลองทำให้เห็นและประสบผลสำเร็จแล้ว ซึ่งถ้าใครมีสติปัญญาช่วยเอาไปสานต่อ เอาไปขับเคลื่อนต่อน่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ต้องขอขอบคุณคุณหญิงกัลยาที่ได้ทำสิ่งเหล่านี้ และเป็นกำลังใจให้คุณหญิงกัลยาและผู้ปฏิบัติงานทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนการศึกษาไทยให้ไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ประสบผลสำเร็จตามเจตจำนงที่วางไว้ 



        ด้านดร.คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า ตั้งแต่วันแรกที่ตนเองมาดำรงตำแหน่งได้ตระหนักดีถึงความรับผิดชอบและความท้าทายในการทำหน้าที่ และทราบดีว่านี่คือภารกิจอันยิ่งใหญ่ของคนไทยรุ่นเราที่ต้องสร้างเด็กไทยและคนไทยให้มีความพร้อม มีภูมิคุ้มกัน ในการดำรงชีวิตภายใต้ยุคดิจิทัล ที่มีทั้งความผันผวน ไม่แน่นอน ซึ่งเรียกรวมกันสั้นๆ ว่า VUCA WORLD 

        ดังนั้นจึงได้ขับเคลื่อนนโยบาย และโครงการสำคัญเพื่อมุ่งสู่การปฏิรูปการศึกษาในศตวรรษที่ 21 และสอดคล้องกับเป้าหมายของการศึกษาโลก ที่จำเป็นต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กไทยพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว อาทิ การขับเคลื่อนนโยบาย CODING ซึ่งไม่เพียงแต่จะมุ่งเน้นการเรียนการสอน CODING ไปที่ครูและนักเรียนเท่านั้น แต่จะกระจายการเรียนรู้ให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ และทุกช่วงวัย ภายใต้แนวคิด “CODING FOR ALL” การนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาใช้ในกระบวนการการเรียนการสอน ซึ่งได้ขยายโอกาสให้เด็กนักเรียนทุกคนต้องได้เรียนวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างทั่วถึง 

        การจัดงาน “สร้างภูมิคุ้มกัน ด้วยวิทยาศาสตร์และ CODING” ได้รับความสนใจจากบุคลากรในแวดวงการศึกษา รวมถึงประชาชนทั่วไปทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามาเยี่ยมชมงานและร่วมกิจกรรม แสดงให้เห็นว่าสังคมได้ตระหนักและรับรู้ถึงความสำคัญและความจำเป็นที่เด็กไทย และคนไทยทุกคนต้องมีความรู้ มีภูมิคุ้มกันด้วยวิทยาศาสตร์ และ CODING เพื่อรับมือและเผชิญหน้ากับโลกในยุคดิจิทัล วันนี้เราได้เห็นผลสำเร็จจากการนำวิทยาศาสตร์ และ CODING มาประยุกต์ใช้กับการเรียน 8 สาระวิชา จนทำให้ประสบความสำเร็จ กระทรวงศึกษาธิการมีเป้าหมายไม่เพียงแต่ให้เด็ก และเยาวชน แต่ต้องการให้คนไทยทุกคนมีภูมิคุ้มกันด้วยวิทยาศาสตร์และ CODING เพื่อมีความพร้อมรับมือกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยน แปลง และผันผวนอย่างรวดเร็ว 

  

        นอกจากนี้ ยังมีโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีต เป็นการนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ CODING มาประยุกต์กับด้านการเกษตรให้เกิดผลผลิตในเชิงพาณิชย์ภายใต้พื้นที่ที่จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็วเพียง 6 เดือนเท่านั้น หลังจากเริ่มต้นโครงการในปี 2562 และการยกระดับวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี เพื่อสร้างผู้ประกอบการภาคเกษตรให้สอดคล้องกับสังคมโลกในศตวรรษที่ 21 โดยผ่านโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ซึ่งเชื่อมั่นว่าเมื่อเยาวชนไทยหรือคนไทยมีองค์ความรู้เรื่องการบริหารจัดการน้ำที่เป็นมาตรฐานในระดับสากลแล้ว ก็จะสร้างความมั่นคงและยั่งยืนด้านเศรษฐกิจให้กับประเทศชาติอย่างแน่นอน

       “งานการศึกษาเปรียบเสมือนการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ที่ต้องใช้เวลา เสียสละ และมีความตั้งใจ ดิฉันจึงอยากขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้สนับสนุนการทำงานของดิฉันตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่ผ่านมาทั้งท่านผู้บริหารของกระทรวงศึกษาธิการ คณะที่ปรึกษาฯ คณะทำงาน ข้าราชการ รวมถึงสื่อมวลชนที่ได้ร่วมถ่ายทอดนโยบายไปยังสาธารณชน ทำให้ได้รับเสียงสะท้อนเพื่อนำมาปรับปรุง เปลี่ยนแปลงแก้ไขระหว่างทางเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อทั้งตัวผู้เรียน ครูผู้สอน และผู้เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน” ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าว



       สำหรับการจัดงาน “สร้างภูมิคุ้มกัน ด้วยวิทยาศาสตร์และ CODING” ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ผลงานวิชาการ ศักยภาพ และขีดความสามารถในการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ให้กับประชาชนทั่วไปได้ทราบ รวมไปถึงผลการดำเนินงานในการขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาภายใต้การกำกับดูแลของดร.คุณหญิงกัลยาตลอดระยะเวลา 4 ปี 

 
เว็บสำเร็จรูป
×