BENZ แรงไม่ตกยอดขายโตหลายรุ่น

เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) โชว์ผลงานปีที่ผ่านมา ยังทำยอดขายในรถระดับลักชัวรี ได้เกิน 2 ล้านคันต่อกันเป็นปีที่ 5 ขณะที่รุ่นปลั๊กอินไฮบริด ก็ขยับขึ้น 4 เท่า เช่นเดียวกับตลาดจีนที่ขายได้มาก ส่วนในไทยก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ทั้งรุ่น AMG และ V-Class และปีนี้เตรียมเปิดตัวใหม่ เช่น The new E-Class , เอเอ็มจี รุ่นคอมแพ็ค



นายโรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ มีความมั่นใจว่าตลาดรถยนต์ระดับลักชัวรีจะยังคงมีส่วนสำคัญในการช่วยผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจทั้งในระดับประเทศและระดับโลก เพราะแม้ว่าทุกคนจะต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา แต่บริษัทฯ ยังมองเห็นสัญญาณบวกอย่างต่อเนื่อง โดยในตลาดโลก เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงสามารถรักษายอดขายได้มากกว่า 2 ล้านคันติดต่อกันเป็นปีที่ 5 ด้วยยอดขาย 2,528,349 คัน เพราะได้ปรับกลยุทธ์ด้านการขายและการบริการให้เป็นดิจิทัลมากขึ้นทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย เพื่อให้ก้าวทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว


ขณะที่ความต้องการรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ทำให้บริษัทฯ สามารถทำยอดขายรถยนต์ไฮบริดได้สูงถึง 115,000 คันหรือเพิ่มสูงขึ้นถึง 4 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในหลายๆ ตลาด โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังปี 2563 โดยเฉพาะในเอเชียแปซิฟิกสามารถทำยอดขายได้ถึง 1,024,315 คันหรือเติบโตขึ้น 4.7% มีตลาดจีนเป็นตลาดสำคัญในการขับเคลื่อนด้วยยอดขายที่เติบโตขึ้นถึง 11.7% หรือ 774,382 คัน ซึ่งถือว่าเป็นสถิติใหม่


ส่วนตลาดประเทศไทย ด้วยสถานการณ์โควิดที่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์หรูในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับสภาพคล่องของผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์และสามารถประคับประคองสถานการณ์ให้ผ่านพ้นปี 2563 มาได้ด้วยดี โดยยังมองเห็นสัญญาณบวกอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ทั้งยอดขายของเมอร์เซเดส-เอเอ็มจีที่เพิ่มสูงขึ้น 14.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และเฉพาะในไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมาเพียงไตรมาสเดียว ยอดขายเมอร์เซเดส-เอเอ็มจีเพิ่มสูงขึ้นถึง 33.9% แสดงให้เห็นว่า ความต้องการขับรถยนต์สมรรถนะสูงจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงเพิ่มขึ้น

ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) กล่าวอีกว่า ยอดขายรถยนต์ V-Class ที่ได้เปิดตัวรุ่นใหม่ในปีที่ผ่านมาก็เพิ่มสูงขึ้น 59.2% ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ฝ่ายบริการลูกค้าของเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้วางกลยุทธ์ในการให้บริการที่ครอบคลุมทุกความต้องการ และได้ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้ามากขึ้นในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการยืดระยะเวลาของ “แพ็คเกจเมอร์เซเดส-เบนซ์ เซอร์วิส พลัส” ขยายระยะเวลาเกินกำหนดของการเข้ารับบริการบำรุงรักษา รวมไปถึงการนำเสนอ “Welcome Back Service Campaign” เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าด้วยส่วนลดและข้อเสนอพิเศษสำหรับบริการหลังการขาย ทั้งหมดนี้จึงทำให้ยอดขายในส่วนของบริการหลังการขายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ทั้งยอดขายน้ำมันเครื่อง MBOil ที่เติบโตขึ้น 14.4% ยอดขาย MBPaint ที่เติบโตขึ้น 24.4% ยอดขายยางรถยนต์ MBTire ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 260.8% ฯลฯ

 

สำหรับปี 2564 เมอร์เซเดส-เบนซ์ เตรียมนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ หลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นเมอร์เซเดส-เอเอ็มจีรุ่นคอมแพ็คใหม่ รถยนต์ Dream Car รุ่นใหม่ รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ รวมถึง Mercedes-Benz The new E-Class ใหม่ พร้อมพลังเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี EQ Power เจเนอเรชันที่ 3 ที่จะกระตุ้นตลาดรถยนต์ลักชัวรีอย่างต่อเนื่องในไตรมาสแรกปีนี้

 
เว็บสำเร็จรูป
×