คอนโดรีเจ้นท์ถูกใจผู้ซื้อรายได้น้อย

           รีเจ้นท์ กรีน เพาเวอร์ ไม่รีรอเตรียมเพิ่มคอนโดฯ อีกหนึ่งแห่งย่านวุฒากาศ มูลค่ากว่า 3,700 ล้านบาท หลังจากก่อนหน้านี้เปิดไปแถวย่านบางนา ยอดขายเกิน 50% ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งที่ใหม่นำเสนอลูกค้าในราคาเดียว 1.2 ล้านบาท ทำให้ผู้ที่เพิ่งเรียนจบหรือซื้อเพื่อลงทุนสามารถเข้าถึงได้ง่าย และยังมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะสมกับการอยู่อาศัย   



           นางสาวปรารถนา อยู่ภักดี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัทรีเจ้นท์ กรีน เพาเวอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ “รีเจ้นท์ โฮม บางนา” เป็นอาคารไฮไรส์ 32 ชั้น ทั้งหมด 4 อาคาร จำนวน 5,000 ยูนิต ขนาด 1 ห้องนอนพื้นที่ใช้สอย 28 ตารางเมตร มูลค่าโครงการกว่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง และซื้อเพื่อลงทุนไปแล้วกว่า 60-70% ภายในเวลาแค่ 2 เดือนเท่านั้น ถือว่าเกินกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้และสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในช่วงซบเซาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และตลาดคอนโดฯที่อยู่ในช่วงขาลงต่อเนื่องมา 2-3 ปีแล้ว 

          ดังนั้นในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ บริษัทฯ จึงเตรียมเปิดตัวคอนโดฯโครงการใหม่เพิ่มอีก 1 โครงการ คือ โครงการ รีเจ้นท์ โฮม วุฒากาศ มูลค่ากว่า 3,700 ล้านบาท เป็นคอนโดฯไฮไรส์ 2 อาคาร สูง  37 ชั้น และ 38 ชั้น รวม 3,098 ยูนิต และร้านค้า 18 ยูนิต ราคาขาย 1.2 ล้านบาททุกยูนิต หรือเฉลี่ยตารางเมตรละกว่า 46,000 บาท โดยออกแบบเป็นห้องชุดขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 26 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนถนนวุฒากาศ ห่างจากรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีวุฒากาศ 180 เมตรเท่านั้น 



          สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการฯ มีทั้ง Garden jogging track , Energetic Fitness    ที่มีอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน รวมถึงสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ Co-working space สำหรับนั่งทำงานและพักผ่อน และห้อง Meeting Room  

         โครงการรีเจ้นท์ โฮม วุฒากาศ จะตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองที่ใช้เวลาเร่งรีบได้เป็นอย่างดี อีกทั้งโครงการฯ ยังใกล้กับตลาดพลูและห้างเดอะมอลล์ ท่าพระ สามารถเดินทางเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีบางหว้า และรถไฟฟ้า สายสีทอง สถานีกรุงธนบุรีได้สะดวก และสามารถเดินทางเข้า-ออกเมือง ได้อย่างสะดวก เพราะถนนวุฒากาศเชื่อมต่อกับถนนราชพฤกษ์ กัลปพฤกษ์ กาญจนาภิเษก และเพชรเกษม 

        “แบรนด์ “รีเจ้นท์ โฮม” ได้มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์และฟังก์ชันใช้สอยภายในห้องชุดให้สอดรับและตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่มากขึ้น รวมถึงการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยของพื้นที่ส่วนกลางให้มากขึ้น เช่น พื้นที่ Co-working Space เพื่อรองรับการทำงานของลูกค้าที่ทำงานแบบ Work from Home พื้นที่สวนส่วนกลางและ jogging track ส่วนลิฟต์โดยสารก็เลือกใช้ของโอทีสหรือยี่ห้ออื่นที่เทียบเท่า สุขภัณฑ์ในห้องน้ำเป็นของเฮเฟเล่ เป็นต้น” นางสาวปรารถนา กล่าว 

        สำหรับจุดเด่นที่ทำให้คอนโดฯ “รีเจ้นท์ โฮม” ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า เพราะห้องชุดของรีเจ้นท์เป็นราคาที่จับต้องได้ ซึ่งเมื่อเทียบราคาขายต่อตารางเมตรกับโครงการอื่นที่อยู่ในรัศมีเดียวกันถือว่าคุ้มค่า จะอยู่เองราคาค่าผ่อนก็ใกล้เคียงกับราคาค่าเช่าอพาร์ทเม้นท์ โดยเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 5-6 พันบาท โดยห้องชุดทุกชั้นทุกยูนิตเปิดขายราคาเดียว 1.2 ล้านบาท ทำให้กลุ่มคนซื้อที่มีรายได้น้อยไปจนถึงรายได้ระดับปานกลาง ที่อยู่ในช่วงวัยเริ่มต้นทำงานหรือกำลังสร้างครอบครัวใหม่สามารถจองซื้อได้ง่าย นอกจากนั้นแล้ว การลงทุนคอนโดก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้เงินงอกเงยชนะเงินเฟ้อ ซึ่งได้ rental yield ประมาณ 6-7% ถือเป็นตัวเลือกในการเก็บเงินนอกจากการฝากธนาคารได้อีกทางหนึ่ง 

        ด้านนายนิรัตน์ อยู่ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทรีเจ้นท์ กรีน เพาเวอร์ จำกัด กล่าวเสริมว่า ในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมาตลาดคอนโดมิเนียมได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการโควิด-19 ค่อนข้างมาก ทำให้มีห้องชุดเหลือขายในกรุงเทพฯ ประมาณ 4-5 หมื่นยูนิต ขณะที่ราคาสินค้าที่เหลือขายอยู่ในตลาดก็เป็นราคาที่ค่อนข้างสูง ส่งผลให้กลุ่มคนซื้อที่เป็นคนรุ่นใหม่หรือเรียนจบมาใหม่ไม่สามารถซื้อได้ จึงเป็นโอกาสของกลุ่มรีเจ้นท์ฯ ที่พัฒนาคอนโดมิเนียมบีโอไอขายในราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาทต่อยูนิต ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ได้ 

      

       นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้ปกครองที่ต้องหาซื้อที่อยู่อาศัยให้กับบุตรหลานของตัวเองได้พักอาศัยในช่วงที่เริ่มต้นทำงานใหม่ ทำให้โครงการของรีเจ้นท์จะมีลูกค้ากลุ่มนี้ประมาณ 20% เพราะในแต่ละปีจะมีนักศึกษาจบใหม่ทั่วประเทศเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯประมาณ 1 แสนคน รวมถึงกลุ่มข้าราชการวัยเกษียณที่นำเงินออมมาซื้อคอนโดฯ เพื่อลงทุนแทนการนำเงินไปฝากธนาคารพาณิชย์หรือธนาคารของรัฐเพราะได้รับผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ 

       สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะพัฒนาคอนโดฯใหม่ปีละ 10,000 ยูนิต โดยในช่วงครึ่งปีหลังนี้ จะเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอีก 2-3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการรีเจ้นท์โฮม ประชาชื่น โครงการรีชพหลโยธิน52 เฟส 2 และโครงการเทอร่า เรสซิเดนซ์ เฟส 2 ใกล้กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต

 
เว็บสำเร็จรูป
×